กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--IR PLUS
XO เดินหน้าสร้างยอดขายเต็มกำลัง จากการหาลูกค้าใหม่เพิ่ม แถมออกสินค้าใหม่เอาใจคน รัก สุขภาพ "จิตติพร จันทรัช" บิ๊กบอส เผย ประสบผลสำเร็จจากนโยบายเปลี่ยนยอดขายยูโรเป็นเงินบาท เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคต มั่นใจ ศักยภาพของบริษัทฯ แข็งแกร่งไม่เปลี่ยนแปลง แม้ได้ รับ ผลกระทบจากลูกค้ายูโรโซน งานนี้ รอโรงงานใหม่แล้วเสร็จ Q2 /59 หนุนกำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัว ดันยอดขายเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งได้ เพราะออเดอร์ที่เข้ามามีอย่างต่อเนื่อง ส่วนผลงานทั้งปีนี้ คาดใกล้เคียงปี 57
นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO ผู้ส่งออกรายใหญ่ในผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรสและน้ำจิ้มต่างๆ, ผลิตภัณฑ์เครื่องแกงเครื่องประกอบอาหาร, ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน และผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูปอื่นๆ เปิดเผยภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง เดินหน้าสร้างยอดขายต่อเนื่อง จากการขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศใหม่เพิ่มเติมอีก และออกสินค้าใหม่ ตอบสนองลูกค้าในกลุ่มคนรักสุขภาพมากขึ้น แม้ลูกค้าหลักของบริษัทฯ กว่า 70% เป็นลูกค้าในกลุ่มยุโรป ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่บริษัทฯ ก็ยังมีออเดอร์เข้ามาจนในปัจจุบัน สามารถเดินกำลังการผลิตได้เต็ม 100% ในผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรสและน้ำจิ้มต่างๆแต่ในแง่ของรายได้จากการขายอาจปรับลดลง เป็นผลจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโร ซึ่งบริษัทฯ ก็พยายามลดความเสี่ยงในเรื่องดังกล่าว โดยเจรจากับลูกค้ารายหลักในยุโรปเพื่อเปลี่ยนยอดขายจากสกุลเงินยูโรเป็นเงิน บาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีรายได้จากการขายในสกุลเงินยูโรเหลือเพียง 23.55 % ยอดขายเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ 27.42% และยอดขายเป็นเงินบาท 49.03 % จากเมื่อสิ้นปี 2557 มียอดขายเป็นสกุลเงินยูโรเป็นหลักสูงถึง 72% นอกจากนี้ บริษัทฯ ก็มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าไว้อยู่ แล้ว ทำให้มั่นใจว่า ในช่วงต่อจากนี้ จะลดความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและความผันผวนของการรับรู้รายได้ใน อนาคต
"จากผลกระทบของลูกค้าหลักในยุโรปจากค่าเงินอ่อนค่า และกำลังการผลิตที่ค่อนข้างเต็ม Capacity แล้วในปัจจุบัน ทำให้บริษัทฯ คาดการณ์ว่า ภาพรวมผลประกอบการทั้งปี 2558 จะมีรายได้และกำไรสุทธิใกล้เคียงปี 2557 ซึ่งมีรายได้จากการขายอยู่ ที่ 734.95 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 86.20 ล้านบาท และมั่นใจว่า การที่บริษัทฯ เปลี่ยนยอดขายเป็นเงินบาทมากขึ้น จะทำให้บริษัทฯ ลดความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะเดียวกัน ก็เดินหน้าหาลูกค้าใหม่เพิ่มเติมอีก ซึ่งล่าสุด บริษัทฯ ก็ได้ลูกค้าใหม่ในประเทศฮ่องกงเข้ามาเพิ่มเติม และมีออเดอร์เข้ามาพอสมควร รวมทั้ง ออกสินค้าใหม่ ไม่ใส่ผงชูรส เอาใจลูกค้ากลุ่มคนรักสุขภาพ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเช่นกัน" นายจิตติพร กล่าว
นายจิตติพร กล่าวต่ออีกว่า ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ซอสปรุงรสและน้ำจิ้มของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนทำให้สามารถเดินหน้ากำลังการผลิตสินค้าดังกล่าวได้เต็มกำลังการผลิตแล้ว แสดงให้เห็นว่า สินค้าของบริษัทฯ ยังได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งรายเก่าและใหม่เป็นอย่างดี แต่เชื่อว่า หลังจากโรงงานใหม่ที่นิคมอมตะซิตี้ จ.ระยอง แล้วเสร็จ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง และคาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 2/2559 เป็นต้นไป จะสนับสนุนให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หรือประมาณ 1.4 หมื่นตัน ต่อ 1 กะ รองรับความต้องการซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน โรงงานใหม่ของบริษัทฯ ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ลดการใช้แรงงาน จึงทำให้ต้นทุนลดลง สนับสนุนผลประกอบการที่ดีขึ้นในอนาคต
สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2558 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 50.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.37% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 42.03 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการขายในงวดครึ่งปีแรกของปี 2558 อยู่ที่ 375.76 ล้านบาท ลดลง 1.49% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 381.46 ล้านบาท ซึ่งรายได้จากการขายที่ปรับลดลงเป็นผลจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยู โร แม้ว่าบริษัทฯ จะขายสินค้าได้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น 6.64% โดยบริษัทฯ มีปริมาณขายสินค้าในสกุลเงินยูโรคิดเป็น 43.76% ของปริมาณการขายในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมในงวดครึ่งปีแรกของปี 2558 อยู่ที่ 388.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 1.69%