สหรัฐฯ รับร่นเวลาลดภาษีนำเข้ารองเท้า-อัญมณีจากไทย

ข่าวทั่วไป Monday November 28, 2005 11:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ผลการเจรจาเอฟทีเอไทย-สหรัฐฯ นอกรอบวันสุดท้าย สหรัฐฯ เผยว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเร่งลดภาษีสินค้ารองเท้าและอัญมณีจากไทยให้เร็วขึ้นกว่า 10 ปี ส่วนการเจรจาเรื่องสิ่งแวดล้อม ไทยเสนอขอให้สหรัฐฯขยายระยะเวลาในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
นายนิตย์ พิบูลสงคราม หัวหน้าคณะเจรจาจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหรัฐฯ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการเจรจานอกรอบ (Intersessional) วันสุดท้าย (18 พ.ย. 48) ว่า การเจรจาในหัวข้อสินค้าอุตสาหกรรม ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นในการที่แต่ละฝ่ายเรียกร้องให้ลดภาษีให้กับสินค้าที่อีกฝ่ายหนึ่งต้องการ ซึ่งทีมเจรจาสหรัฐฯ แจ้งว่าพร้อมจะพิจารณารับข้อเสนอของไทยที่ต้องการให้เร่งระยะเวลาการลดภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้าประเภทรองเท้า และอัญมณี ให้เร็วขึ้นกว่า 10 ปี
นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะแลกเปลี่ยนข้อเสนอรายการสินค้าที่ปรับปรุง ตามข้อเรียกร้องของอีกฝ่ายหนึ่ง (revised offer) ในเดือนธันวาคมนี้ พร้อมๆ กับการแลกเปลี่ยน revised offer ของสินค้าเกษตร
ทั้งนี้ การเจรจาในหัวข้อสินค้าอุตสาหกรรม คณะเจรจาฝ่ายไทยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงการต่างประเทศ
สำหรับการส่งออกสินค้ารองเท้าและอัญมณีจากไทยไปสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา พบว่าสหรัฐฯ นำเข้ารองเท้าจากไทยมีมูลค่า 269 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และสินค้าอัญมณี มีมูลค่า 735 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
สำหรับการเจรจาในกลุ่มสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเรื่องที่ภาคประชาชนของไทยให้ความสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในประเด็นที่มีความกังวลว่าไทยจะต้องนำกฎหมายคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ มาใช้ ซึ่งจะทำให้เกิดการฟ้องร้องในเรื่องการละเมิดต่อสิ่งแวดล้อมนั้น นายนิตย์กล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่ได้บังคับให้ไทยยกระดับมาตรฐานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม หรือแก้ไขกฎหมายที่มีอยู่ แต่ทีมเจรจาเป็นห่วงเรื่องการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของไทย ทีมเจรจาฝ่ายไทยจึงได้ยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯ ผ่อนปรนเรื่องเวลาเพื่อให้ประเทศไทยเตรียมความพร้อมในการกำกับดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม
สำหรับทีมเจรจาเรื่องสิ่งแวดล้อมของไทย ประกอบไปด้วยผู้แทนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ