“เมืองไทยลิสซิ่ง”คุมเข้มหนี้เสีย/ตั้งสำรองสูงกว่ามูลหนี้ 258% ย้ำบริหารงานอย่างระมัดระวัง! เอ็นพีแอลปี”58 ไม่เกิน 1.1%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 14, 2015 10:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--IR network "ชูชาติ เพ็ชรอำไพ"บิ๊กบอส บมจ.เมืองไทย ลิสซิ่ง (MTLS) สั่งเกาะติดดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด หลังหนี้ภาคครัวเรือนพุ่ง! ย้ำบริหารงานอย่างระมัดระวัง ตั้งสำรองสูงกว่ามูลหนี้กว่า 258% กดเอ็นพีแอลไม่เกิน 1.1% มั่นใจยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ปี"58 เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% ตามแผน หลังขยายสาขาปูพรมทั่วประเทศ นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (MTLS) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และปัญหาหนี้ครัวเรือนของประชาชนอยู่ในระดับสูง ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ MTLS ได้ติดตามดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ซึ่งเห็นได้จากหนี้เสียในช่วงที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับต่ำมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยปัจจุบันมีเอ็นพีแอลเพียง 1.1% เมื่อเทียบกับพอร์ตสินเชื่อรวม อย่างไรก็ตาม เกณฑ์การตั้งสำรองหนี้เสียของบริษัทได้มีการกันสำรองใน 2 แบบคือ การสำรองตามอายุลูกหนี้ (Aging) และการสำรองแบบทั่วไป (General Reserve) โดยในไตรมาส 2/58 บริษัทมีเอ็นพีแอลจำนวน 117 ล้านบาท แต่ได้มีการตั้งสำรองรวมทั้ง 2 แบบแล้ว จำนวน 302 ล้านบาท หรือคิดเป็น 258% ซึ่งการสำรองดังกล่าวสูงกว่าเอ็นพีแอลมาก แสดงให้เห็นว่าบริษัทให้ความสำคัญต่อการดูแลหนี้และทำงานอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ความมั่นใจต่อนักลงทุนว่า ไม่ว่าสถานการณ์ด้านลูกหนี้จะเป็นอย่างไร บริษัทก็ได้มีการกันสำรองอยู่ในอัตราส่วนที่เพียงพอและสูงกว่ามูลหนี้มาก "ผมบริหารหนี้ และทำงานอย่างระมัดระวัง โดยได้ตั้งเป้าหมายคุมเข้มหนี้เสียปีนี้ไม่ให้เกิน 1.1% โดยการเข้าไปดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด"นายชูชาติกล่าว ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าปล่อยสินเชื่อตามเป้าหมาย โดยคาดว่าสินเชื่อใหม่ในปีนี้จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 50% จากเดิมตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ขยายตัว 30% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมั่นใจว่ายอดปล่อยสินเชื่อจะเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้มีการปล่อยสินเชื่อไปแล้วมากกว่า 50% ช่วงครึ่งหลังของปีนี้มองว่าไม่น่าจะยากในการผลักดันสินเชื่อให้เติบโตตามแผน หลังขยายสาขาทั่วประเทศ โดยในปี 2558 จะมีสาขาเพิ่มเป็น 900 สาขาทั่วประเทศ ภายในปี 2559 และปี 2560 เตรียมเปิดเพิ่มปีละ 300 สาขา ทำให้ฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และสามารถตอบโจทย์ความต้องการสินเชื่อของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทั่วประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ