กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--สถาบันกรรมการบริษัทไทย
สถาบันกรรมการบริษัทไทย หรือ IOD ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) จัดการประชุม Director Forum 1/2015 ในหัวข้อ "IT Governance: The Time is Now!" เพื่อกระตุ้นให้กรรมการบริษัทไทยตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศหรือ IT ที่มีต่อผลสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงผลักดันให้กรรมการให้ความสำคัญกับการปฏิบัติหน้าที่ทางด้านการกำกับดูแลเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือIT Governance มากขึ้น
ภายในงานมีนักธุรกิจและนักวิชาการที่มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาธุรกิจจากทั้งในและต่างประเทศมากมายมาร่วมเป็นวิทยากรเพื่อเสนอแนะความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับแนวทางในการนำ ITมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการนำ IT มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ และบทบาทของคณะกรรมการและสิ่งที่กรรมการควรทราบในการกำกับดูแลด้าน IT
"ปัจจุบัน เทคโนโลยีสารสนเทศได้กลายเป็นหัวใจของการดำเนินธุรกิจ สิ่งที่กรรมการควรตระหนักคือ การรักษาความมั่นคงปลอดภัยในโลกไซเบอร์ไม่ใช่เป็นประเด็นเทคนิคเกี่ยวกับเทคโนโลยี แต่เป็นประเด็นการบริหารความเสี่ยง ทำให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการโดยตรงที่ต้องกำกับดูแลให้บริษัทหรือองค์กรมีระบบและกระบวนการบริหารความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม คือ มี IT Governance ที่ดี" ดร. บัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ IOD กล่าว
จากผลสำรวจความเห็นของกรรมการไทยเกี่ยวกับแนวปฏิบัติทางด้านการกำกับดูแลเทคโนโลยีสารสนเทศในประเทศไทย ซึ่งจัดทำโดย IOD พบว่า กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่า การกำกับดูแลเทคโนโลยีสารสนเทศมีความจำเป็นต่อการเติบโตทางธุรกิจ แต่ยังไม่ค่อยมีกรรมการที่มีความรู้ในเรื่องนี้มากนัก ดังนั้นปัจจัยที่จะส่งเสริมให้เกิดการกำกับดูแลเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ คือ ความรู้ความเข้าใจของคณะกรรมการ การให้ความสำคัญของ IT ในกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ และคณะกรรมการต้องเห็นถึงความจำเป็นของการกำกับดูแลเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยฉพาะการบริหารความเสี่ยงด้าน IT
ภายในงานมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ "IT Trends: What's Next for Thailand" โดย สุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ ETDA ซึ่งมีใจความสำคัญว่า แนวโน้มทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่คณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงควรให้ความสำคัญมากขึ้น ได้แก่ 1) IoT (Internet of Things) หรืออินเทอร์เน็ตออฟติงส์ ที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดสามารถออนไลน์ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ 2) เรื่องของ Cloud ที่อาจต้องตั้งคำถามว่าจะใช้งานอย่างไร 3) ซอฟต์แวร์แบบสมองฝังกลที่ช่วยในเรื่องการเปลี่ยนทุกอย่างเป็นดิจิทัล 4) การทำ Mobile Banking การชำระเงินในรูปแบบใหม่ที่มาแรง และ 5) การสร้างระบบนิเวศดิจิทัล (Digital Ecosystem) เพื่อส่งเสริมนโยบาย Digital Economy ให้เกิดขึ้นได้จริงในประเทศ เนื่องจากแนวโน้มด้านเทคโนโลนีสารสนเทศเหล่านี ย่อมส่งผลกระทบต่อแนวทางการบริหารองค์กรที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป