กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--IR network
บมจ.ลีซ อิท (LIT) เดินหน้าท้าลุยอย่างต่อเนื่อง! ก้าวสู่อุตสาหกรรมนอกเหนือกลุ่มไอที หลังจากที่ ได้เปิดฉากให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ/ลิสซิ่ง เพื่อจัดหารถบรรทุกหัวลาก เพื่อใช้ในการส่งก๊าซ NGV มูลค่าสัญญาเกือบ 40 ล้านบาทไปแล้ว ล่าสุดลุยปล่อยสินเชื่อให้กับคู่ค้าของกฟภ. เพื่อเช่าซื้อชุดเครื่องยนต์ดีเซลกำเนิดไฟฟ้า แก้ไขปัญหาการจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี มูลค่ากว่า 62 ล้านบาท ตอกย้ำ "ลีซ อิท" ไม่ใช่แค่ "ลีซ ไอที" ด้านผู้บริหาร "สมพล เอกธีรจิตต์"มองแนวโน้มครึ่งปีหลัง สินเชื่อโตกระฉูด หลังกระจายพอร์ตปล่อยกู้ทั้งภาครัฐ-เอกชน มั่นใจรายได้-กำไรปี 58 โต 30% ตามเป้า เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากนโยบายภาครัฐที่มีมาตรการเพิ่มเติมในการกระตุ้นเศรษฐกิจ"
นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) (LIT) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับคู่ค้าก้าวสู่อุตสาหกรรมใหม่นอกเหนือจากภาคอุตสาหกรรมไอที โดยเซ็นสัญญาปล่อยสินชื่อเช่าซื้อ หรือ Hire Purchase มูลค่าสัญญากว่า 62 ล้านบาท เป็นสินเชื่อเช่าซื้อชุดเครื่องยนต์ดีเซล กำเนิดไฟฟ้า ซึ่งเป็นงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อแก้ไขปัญหาการจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระยะเวลา 28 งวด "การให้สินเชื่อเช่าซื้อในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำว่า ลีซ อิท ไม่ใช่แค่ ลีซ ไอที และทำให้พอร์ตสินเชื่อลีสซิ่งของเราเติบโตแข็งแกร่งขึ้น"นายสมพลกล่าว
ทั้งนี้ บมจ.ลีซ อิท (LIT) โชว์ผลงานครึ่งปีแรกของปี"58 กวาดรายได้รวม 88.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.7 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 32.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น.62.7 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยครึ่งปีแรกของปี 2558 มียอดปล่อยสินเชื่อ รวมในทุกผลิตภัณฑ์ 2,231.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น1,073.53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 93% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2557 ที่มียอดปล่อยสินเชื่อรวมอยู่ที่ 1,158.25 ล้านบาท
นายสมพล กล่าวว่า ตลาดสินเชื่อเอสเอ็มอียังมีช่องว่างให้ขยายฐานลูกค้าได้อีกมาก โดยบริษัทมีแผนงานร่วมมือกับพันธมิตรคู่ค้าเดินหน้าเจาะตลาดใหม่ เพื่อปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อนอกเหนือจากสินค้าไอที โดยแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ รัฐบาลมีมาตรการเพิ่มเติมในการเดินหน้าขยายการลงทุนภาครัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นคู่ค้าภาครัฐ มีความต้องการสินเชื่อมากขึ้น เช่น สินเชื่อเพื่อค้ำประกันซองประมูล สินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ ( Project Backup Finance) เป็นต้น เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนมากขึ้นและเข้ามาติดต่อขอรับสินเชื่อกับบริษัทอย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทมีจุดแข็ง คือ เข้าใจความต้องการของเอสเอ็มอี จึงสามารถเสนอบริการอนุมัติเงินกู้ให้ลูกค้าได้รวดเร็ว ให้วงเงินสูง และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันและเชื่อมั่นว่าลีซ อิท สามารถตอบโจทย์ความต้องการแหล่งเงินทุนให้ SME ได้และยังคงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับ SME ในภาวะปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง เพื่อป้องกันปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) จากประสบการณ์ของทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญธุรกิจมายาวนาน ทำให้สามารถสกรีนลูกค้าที่มีศักยภาพ ส่งผลให้ NPLs อยู่ในระดับต่ำกว่า 2% เท่านั้น เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 3-4% ของสินเชื่อรวม และบริษัทจะรักษาระดับ NPLs ไม่ให้เกิน 2%