กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ฟอร์มทีมวาณิชธนกิจ ต้อนรับคนเก่ง เสริมทัพสายงาน Investment Banking ให้แข็งแกร่ง พร้อมรุกงาน IB เต็มสูบ หวังเดินหน้าพาบริษัทฯ ที่มีความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) เพื่อเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป ภายใต้การดูแลจากผู้เชี่ยวชาญและมากด้วยประสบการณ์ จาก เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา เมย์แบงก์ กิมเอ็ง มีความโดดเด่นเป็นอย่างมากในสายงานธุรกิจหลักทรัพย์ จนมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 14 ในขณะที่สายงานวาณิชธนกิจ ซึ่งให้บริการด้านที่ปรึกษาทางการเงิน และการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จ โดยในปี 2557 และครึ่งแรกของปี 2558 บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ให้กับลูกค้ามากถึง 14 ดีล โดยเป็นการเสนอขายหุ้น IPO 6 ราย มูลค่าการเสนอขายรวมกว่า 16,000 ล้านบาท การระดมทุนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้วผ่านการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน หน่วยกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) อีก 7 ราย มูลค่าการระดมทุนอีกมากกว่า 28,000 ล้านบาท และยังมีการนำบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำอย่าง สิงห์ เอสเตท เข้าจดทะเบียนโดยการทำ Backdoor Listing ซึ่งปัจจุบันมีมาร์เก็ตแคป มากกว่า 32,000 ล้านบาท
ธุรกิจด้านวาณิชธนกิจของบริษัทฯ มีแนวโน้มที่ดีมาก โดยบริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเมย์แบงก์ ในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นทีมวาณิชธนกิจระดับภูมิภาคซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้นำในอาเซียน และการสนับสนุนของธนาคาร เมย์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารอันดับหนึ่งของประเทศมาเลเซีย มีสินทรัพย์มากกว่า 5 ล้านล้านบาท สามารถให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทไทยที่ต้องการขยายธุรกิจออกไปในภูมิภาค ซึ่งจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะภายหลังการเปิดเขตเศรษฐกิจ AEC ในปลายปีนี้ ทั้งนี้ เฉพาะในปีเศษที่ผ่านมา เมย์แบงก์ ได้ให้สินเชื่อแก่บริษัทชั้นนำในไทยหลายแห่ง เพื่อใช้ในการเสริมสภาพคล่องแก่ธุรกิจและการซื้อกิจการในภูมิภาค มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท
เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณงานที่มีเข้ามามากอย่างต่อเนื่อง และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลายและซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ บริษัทฯ จึงเสริมความแข็งแกร่งของทีม โดยได้มีโอกาสต้อนรับ นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ เข้ามาร่วมงานกับบริษัทฯ ในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจร่วม ซึ่งมีผลตั้งแต่เมื่อต้นเดือนกรกฏาคม ที่ผ่านมา คุณประเสริฐ มีประสบการณ์ด้านการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ทั้งการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้น IPO และหุ้นกู้ ตลอดจนการซื้อขายและควบรวมกิจการ ในดีลที่สำคัญๆ มามากกว่า 17 ปี บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าด้วยความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ ด้านงานวาณิชธนกิจของคุณประเสริฐ ร่วมกับบุคลากรหลักของบริษัทฯ ที่มีอยู่ คือ คุณวันทนา เพชรฤกษ์วงศ์ และคุณทวีสิทธิ สันตติกุล พร้อมด้วย คุณมนตรี ศรไพศาล ซึ่งแต่ละท่านมีประสบการณ์ในสายงานมากกว่า 20 ปี จะทำให้ทีมวาณิชธนกิจของ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แข็งแกร่งและสามารถให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในด้านงานวาณิชธนกิจ และบริการทางการเงินอื่นๆ อย่างครบวงจรยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต
โดยภายในอีก 1- 2 ปีข้างหน้า สายงานวาณิชธนกิจ ของเมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า โดยภายในปี 2559 บริษัทฯ มีแผนจะทำการเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป (IPO) ประมาณ 4-5 บริษัท และมีกองทุน รวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ประมาณ 1-2 บริษัท และกองทรัสต์เพื่ออสังหาริมทรัพย์ Real Estate Investment Trust (REIT) 1 บริษัท โดยมีมูลค่าการระดมทุนรวมทั้งหมดกว่า 10,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จากการเป็นที่ปรึกษาด้านการเป็นที่ปรึกาในการจัดเงินกู้โครงการ (Project Finance Arranger) รวมถึงด้าน M&A ให้กับ บริษัทไทย ซึ่งการมีเครือข่าย Maybank ในหลายประเทศ ทำให้ได้ประโยชน์ในเชิง Cross Border M&A เพิ่มขึ้นอีกด้วย