กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--ธนาคารกสิกรไทย
กสิกรไทยสนับสนุนมาตรการช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีของรัฐบาลในการบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา เตรียมปล่อยกู้ให้เอสเอ็มอีสู้วิกฤติเศรษฐกิจวงเงินรวม 60,000 ล้านบาท พร้อมหาช่องทางช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจให้สามารถดำเนินไปได้อย่างมั่นคง
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์เอสเอ็มอีของไทยบางกลุ่มธุรกิจยังสามารถดำเนินธุรกิจไปได้ดี ในขณะที่บางกลุ่มยังคงอยู่ในช่วงที่ต้องปรับตัวและต้องการความช่วยเหลือด้านเงินทุน ดังนั้นธนาคารกสิกรไทยจึงเตรียมวงเงินปล่อยกู้เอสเอ็มอีรวม 60,000 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินจากโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของภาครัฐ ซึ่งธนาคารคาดว่าจะสามารถปล่อยกู้ให้ลูกค้าเอสเอ็มอีที่ขอกู้โครงการภาครัฐผ่านธนาคารประมาณ 30,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ธนาคารยังพร้อมที่จะสนับสนุนเงินทุนในส่วนของธนาคารเพิ่มเติมอีก 30,000 ล้านบาทเพื่อให้เพียงพอในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้ โดยก้อนแรก 2,000 ล้านบาท เป็นส่วนที่ธนาคารมีมาตรการช่วยเหลือช่วงเศรษฐกิจซบเซาเพิ่มเติม ในการเพิ่มเงินทุนและเสริมสภาพคล่องแก่เอสเอ็มอีในรูปแบบเงินกู้ (Loan) หรือวงเงินเบิกเกินบัญชี (OD) โดยปล่อยกู้สูงสุด 30 ล้านบาทต่อราย คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ต่ำสุด4% นาน 6 เดือน ลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าร่วมมาตรการของธนาคารได้ภายใน 31 ธันวาคม 2558
มาตรการนี้เป็นมาตรการเสริมที่ธนาคารต้องการจะช่วยให้เอสเอ็มอีมีเงินทุนในการดำเนินธุรกิจในช่วงเศรษฐกิจซบเซา เพื่อช่วยบรรเทาภาระทางการเงินของลูกค้าและให้ลูกค้ามีทางเลือกในการใช้วงเงินที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ
สำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารกสิกรไทยหลายธุรกิจยังไปได้ดี เช่น ธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง และค้าวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะในกลุ่มที่รับงานกับภาครัฐยังมีแนวโน้มที่สดใส ส่วนธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนั้น ก็ยังประคับประคองตัวเองไปได้ ซึ่งคาดว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงไฮซีซั่น ในภาคอุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศพบว่า สถานการณ์ไม่ได้แย่อย่างที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากสินค้ายังเป็นที่ต้องการในตลาด จึงยังขายได้อยู่ มีตลาดรองรับ แต่อาจประสบปัญหาผลผลิตตกต่ำบ้าง
นายพัชร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่พูดคุยกับเอสเอ็มอีพบว่า ปัญหาหลักของเอสเอ็มอี คือ การบริหารจัดการที่ไม่เป็นระบบ ทำให้ไม่สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ ส่งผลให้ได้กำไรไม่เต็มที่ ธนาคารจึงสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีด้านไอทีเข้ามาใช้ในธุรกิจ โดยธนาคารมีพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำในการใช้ระบบต่างๆเพื่อบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการจัดกิจกรรมให้ความรู้ เพื่อให้ตระหนักถึงประโยชน์ของการบริหารอย่างมีระบบ
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีโครงการให้คำปรึกษารายธุรกิจเฉพาะด้าน เช่น การจัดการกระบวนการโรงงาน โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาและออกแบบวางแผนให้ แบบ 1 ต่อ 1 เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจที่ไม่มีใครเหมือนกับใคร อีกทั้งยังช่วยเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างธุรกิจเอสเอ็มอีด้วยกัน จับคู่ระหว่างเอสเอ็มอีกับช่องทางการขายกับพันธมิตรอื่นๆ และจับคู่กันเองภายในเครือข่าย โดยมีธนาคารเชื่อมโยงให้ ที่ผ่านมามีมูลค่าตัวเลขการซื้อขายในเครือข่ายแล้วกว่า 2 พันล้านบาท
ในช่วงที่ผ่านมาธนาคารกสิกรไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นมิถุนายน 2558 มียอดสินเชื่อคงค้างของลูกค้าเอสเอ็มอีที่ธนาคารช่วยเหลือประมาณ 80,000 ล้านบาท และในช่วง 7เดือนแรกของปี 58 ธนาคารมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ (New Booking) 138,591 ล้านบาท ทำให้ยอดสินเชื่อรวม ณ สิ้นกรกฎาคม 58 อยู่ที่ 561,659 ล้านบาท เติบโต 4%