กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันนี้ (๑๘ ก.ย. ๕๘) เวลา ๑๐.๓๐ น. ที่ห้องประชุม ชั้น ๒ อาคารใหม่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้คณะเยาวชนจำนวนกว่า ๑๐๐ คน ประกอบด้วย ผู้แทนสภาเด็กและเยาวชน แห่งประเทศไทย ผู้แทนชมรมเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเยาวชน กลุ่มเยาวชนชาติพันธุ์ เยาวชนโครงการ เรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ เยาวชนด้านจิตอาสา นักศึกษาพิการ ยุวชนประชาธิปไตย และเครือข่ายเยาวชน เข้าพบเพื่อยื่นข้อเสนอจากการจัดสมัชชาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๒๘ กำหนดให้วันที่ ๒๐ กันยายน ของทุกปีเป็นวันเยาวชนแห่งชาติ และในโอกาสที่วันเยาวชนแห่งชาติ จะครบรอบ ๓๐ ปี ในปี ๒๕๕๘ นี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน(ดย.) ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้แสดงความมุ่งมั่นตั้งใจในการแสดงศักยภาพของตนเอง ด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ อันเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ ร่วมแรง ร่วมใจของเยาวชนในกลุ่มต่างๆ ทั่วประเทศ และสำหรับการมาพบปะกับเยาวชนในครั้งนี้ เป็นอีกกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนร่วมกันยื่นข้อเสนอจากการจัดสมัชชาเด็กและเยาวชนแห่งชาติต่อตน เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในมุมมองของเด็กและเยาวชนต่องานด้านเด็กและเยาวชนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ต่อไป
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า ทิศทางการพัฒนาเด็กและเยาวชนสู่ "ความมั่นคง แข็งแรงดี มีสุขและสร้างสรรค์" ในการดำรงชีวิตให้มีความแข็งแรงทางร่างกายและจิตใจมีคุณธรรม จริยธรรม มีสำนึกความเป็นพลเมืองที่ดี กล้าคิดและแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ตามวิถีประชาธิปไตยอย่างมีความสุข เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาคนและด้วยความเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่รวดเร็วอย่างก้าวกระโดด การพัฒนาเด็กและเยาวชนจึงเป็นสิ่งพึงจัดเตรียมควบคู่ไปกับการเติบโตเป็นพลเมืองที่มีประสิทธิภาพ ด้วยความรักและความผูกพันในครอบครัว ซึ่งเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตของเยาวชนที่พร้อมจะเป็นผู้มุ่งมั่นในการเรียนรู้รอบด้าน มีทักษะต่อการดำรงชีวิต เรียนรู้และเท่าทันสื่อเทคโนโลยี และปรับใช้ให้เหมาะกับตนเอง รวมทั้งสามารถเข้าใจและเท่าทันต่อสิ่งยั่วยุต่างๆ ซึ่งปะปนมากับสื่อที่รวดเร็วและทันสมัยในปัจจุบันและที่สำคัญคือการเรียนรู้คู่กับคุณธรรม จริยธรรมในการดำรงตนในสังคมด้วยความเอื้ออาทร และมีจิตอาสาพร้อมที่จะเสียสละต่อส่วนรวม
"ทั้งนี้ ขอให้เด็กและเยาวชน ซึ่งจะเป็นผู้รับผิดชอบอนาคตในวันข้างหน้าของชาติ เป็นพลังคลื่นลูกใหม่ด้วยการ เป็นผู้มีระเบียบวินัย เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน รู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวมทั้งยังควรมีความเท่าทัน มีความมั่นคงทางจิตใจที่จะพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในอนาคต นำไปสู่การพัฒนาตนเองและสังคมต่อไป" พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย