กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--พลัส พร็อพเพอร์ตี้
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เผยผลสำรวจพบโซนราชเทวี-เพชรบุรี ขึ้นแท่นทำเลทอง คาดผู้ประกอบการอสังหาฯ เตรียมปักหมุดสร้างโครงการใหม่คึกคัก รับอานิสงส์การเป็นสถานีเชื่อมต่อ (Interchange) ในปี 2020 ส่งผลราคาที่ดินมีแนวโน้มปรับตัวเทียบชั้นสยามได้อย่างรวดเร็ว แม้ล่าสุดโครงการใหม่ยังมีน้อยแต่ยอดขายโดดเด่นสูงถึง 95% ส่วนราคาคอนโดมิเนียมล่าสุดผลสำรวจครึ่งปีแรกพบปรับตัว 6% จากปี 2557 ราคาย้อนหลังเติบโตเฉลี่ย 47%
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากการสำรวจประเมินที่ดินในบริเวณรัศมีไม่เกิน 500 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสราชเทวี (ราชเทวี-เพชรบุรี) พบว่าเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุมาจากพื้นที่ย่านราชเทวีถือว่าเป็นทำเลที่อยู่ในกลางเมือง และได้รับผลดีจากการกระจายตัวของที่อยู่อาศัยในทำเลศักยภาพอย่างสุขุมวิทที่หนาแน่นมาสู่พื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งถนนเพชรบุรีเป็นหนึ่งในถนนสายคู่ขนานกับถนนสุขุมวิทจึงสะดวกต่อการเดินทางเข้าสู่ย่านธุรกิจและศูนย์การค้าชั้นนำ
นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกสำคัญจากแผนการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งจะพาดผ่านกับ BTS สายปัจจุบัน และทำให้เกิดสถานีเชื่อมต่อ (Interchange) บริเวณราชเทวีก็จะกลายเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างแหล่งธุรกิจใหม่ย่านบางซื่อเข้าสู่แหล่งธุรกิจหลักในปัจจุบันเช่นย่านศาลาแดง สยามและอโศก เป็นต้น ซึ่งหากสถานีเชื่อมต่อนี้มีการสร้างได้จริงคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2563 ก็จะดึงดูดให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ในบริเวณนี้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามแม้ปัจจุบันที่ดินเปล่าในย่านนี้จะเหลืออยู่อย่างจำกัดสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ แต่ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดขายที่อยู่ในระดับสูงถึง 95% การเปิดตัวของโครงการ สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว แม้โครงการใหม่ในย่านนี้จะมีต้นทุนสูงจากการซื้อที่ดินพร้อมโครงสร้างอาคารเก่ามารื้อเพื่อสร้างโครงการใหม่ ทำให้ราคาขายเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ยังได้รับการตอบรับที่ดี โดยในปัจจุบันพบว่ายังมีอุปทานคงค้างรอขายในทำเลนี้เพียง 57 ยูนิตเท่านั้น และทำเลที่ได้รับความนิยมสุดจะอยู่ในบริเวณถนนเพชรบุรีตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสราชเทวีไปจนถึงบริเวณโรงเรียนกรุงเทพการบัญชี ซึ่งเป็นทางลัดไปยังศูนย์การค้าชั้นนำ
สำหรับราคาคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ถือว่าเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยล่าสุดในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา พบว่าราคาเสนอขายปรับตัวสูงขึ้นแล้ว 6% จากปลายปี 2557 มาที่ 158,046 บาท/ตารางเมตร ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าราคาขายเฉลี่ยเติบโตสูงถึง 47% แต่ถ้าดูเฉพาะโครงการอาคารสูงแล้วราคาจะสูงกว่านี้มาก โดยในปีที่แล้วมีโครงการเปิดตัว 2 โครงการ ที่มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 175,000 บาท/ตารางเมตร ได้แก่Ideo Q สยาม-ราชเทวี ที่ขายหมดไปแล้ว และ Wish Signature @ Midtown Siam ซึ่งขายใกล้จะหมด นอกจากนี้ราคาขายต่อของโครงการระดับ High End ในบริเวณนี้เช่น โครงการ Pyne by Sansiri ก็ขยับตัวไปอยู่ที่กว่า250,000 บาท/ตารางเมตร เพิ่ม 80% จากช่วงเปิดตัวเมื่อ 6 ปีที่แล้ว จึงคาดว่าถ้ามีโครงการใหม่ออกมาเสนอขายในบริเวณนี้ราคาไม่น่าจะต่ำกว่า 200,000 บาท/ตารางเมตรแน่นอน ในส่วนของตลาดสำหรับเช่านั้นพบว่า ห้องขนาด 1 ห้องนอน ราคาเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 800 บาท/ตารางเมตร หรือให้ผลตอบแทนจากการเช่าประมาณ 6% ปัจจัยที่ส่งผลให้อสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้ได้รับความนิยมมาจากข้อจำกัดในที่ดินที่มีน้อย จึงทำให้อสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะได้รับผลบวกจากทั้งราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นและมีผลตอบแทนจากอัตราค่าเช่าที่ดี
"ย่านราชเทวีนั้นปัจจุบันที่ดินเปล่าแทบไม่เหลือแล้ว อสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้จึงกลายเป็นของหายาก ซึ่งทำเลราชเทวี นอกจากจะใกล้ย่านธุรกิจ ศูนย์การค้าและสถานศึกษาชั้นนำแล้ว ยังเป็นมีอุปสงค์ของชาวต่างชาติ เพราะอยู่ใกล้สถานทูตและบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง ส่งผลให้อัตราการเช่าสูงต่อเนื่อง" นายภูมิภักดิ์ กล่าว