กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--สำนักงาน ป.ป.ช.
ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 545 – 13/2557 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายสามารถ ใจสมุทร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค ๘ ร่ำรวยผิดปกติ และมีคำสั่งให้ นายสามารถ ใจสมุทร แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตามแบบแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา ๗๙ รวมทั้งมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการร่ำรวยผิดปกติของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการชั่วคราว ตามมาตรา ๗๘ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ นั้น
คณะอนุกรรมการไต่สวนได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน รับฟังข้อเท็จจริง ได้ว่า นายสามารถ ใจสมุทร มีทรัพย์สินที่ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติ จำนวน ๔ รายการ รวมมูลค่า 113,311,730 บาท ประกอบด้วย
- หุ้นกู้ด้อยสิทธิธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นเงินจำนวน 700,000 บาท
- สลากออมสินพิเศษ ธนาคารออมสิน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๑๐๗,๗๗๒,๐๐๐ บาท
- ที่ดิน โรงเรือน และสิ่งปลูกสร้างอื่น รวมมูลค่า 3,549,730 บาท
- ยานพาหนะ จำนวน ๑ คัน มูลค่า ๑,29๐,๐๐๐ บาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาในการประชุมครั้งที่ 650 – 22/2558 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2558แล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 9 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของอนุกรรมการไต่สวนฝ่ายเสียงข้างมากว่า นายสามารถ ใจสมุทร ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ รวมมูลค่า 113,311,730 บาท
สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินของนายสามารถ ใจสมุทร ตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งปัจจุบันอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดสงขลา และสำนักงานอัยการจังหวัดสงขลาได้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลดังกล่าวแล้ว