กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--สำนักงาน ป.ป.ช.
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีทุจริต และความผิดในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดและได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อลงโทษทางวินัย หรือส่งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีทางอาญา หรือเสนอคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อวินิจฉัยแล้วแต่กรณี ดังนี้
ที่ จังหวัด ผู้ถูกกล่าวหา/ตำแหน่ง ข้อกล่าวหา/พฤติการณ์ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
๑ กรุงเทพมหานคร พันตำรวจโท เสน่ห์ เสถียรพงศ์ ลงโทษกักขังผู้ใต้บังคับบัญชาที่กระทำผิดวินัย โดยไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตามระเบียบฯ พันตำรวจโท เสน่ห์ เสถียรพงศ์ มีมูลความผิดทางวินัย
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสารวัตรจราจร ไม่ร้ายแรงจึงได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยต่อไปแล้ว
สถานีตำรวจนครบาล
ทุ่งมหาเมฆ
๒ ชลบุรี นายเตชชยันตี นำเอกสาร คำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว นายเตชชยันตี มีเพชรอัฐมงคล หรือนายโชติกะ
มีเพชรอัฐมงคลหรือ ครั้งแรก ที่มีคำสั่ง เพชรเลื่อน มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
นายโชติกะ เพชรเลื่อน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ไม่อนุญาตมาพิจารณา แต่ปรากฏว่าสำนักงานศาลยุติธรรม ได้มีคำสั่งที่356/2555 ลงวันที่ 20 เมษายน 2555 ลงโทษไล่
ผู้พิพากษาศาลจังหวัดชลบุรี มีคำสั่งใหม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ถูกกล่าวหาออกจากการเป็นข้าราชการตุลาการ
โดยไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เอื้อประโยชน์ ให้แก่ผู้ต้องหา ในการกระทำความผิดนี้แล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะต้องส่งเรื่องให้ประธานคณะกรรมการตุลาการ พิจารณาดำเนินการลงโทษซ้ำอีก แต่ได้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาให้ประธานคณะกรรมการตุลาการทราบแล้ว
และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 ,158 และ 185 จึงได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้วต่อไปแล้ว
๓ ราชบุรี นางศมานันท์ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ให้เสนอเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ให้นางศมานันท์
เหล่าวณิชวิศิษฎ เหล่าวณิชวิศิษฎ พ้นจากตำแหน่งและห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย
นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี และขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119ซึ่งได้เสนอคำร้องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัยต่อไปแล้ว
๔ มหาสารคาม นางนวลจันทร์ วิไลแก้ว อาศัยโอกาสที่ปฏิบัติหน้าที่กรรมการตรวจนับเงินเบียดบังเงินของธนาคารฯ ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว นางนวลจันทร์ วิไลแก้ว หรือวงษาสืบ
หรือวงษาสืบ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงจึงได้ส่งสำนวน
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง พนักงานการเงิน7 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขากุดรัง การไต่สวนข้อเท็จจริงไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยแล้ว
และมีมูลความผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4 และมาตรา 11 และฐานปลอมเอกสารสิทธิ ฐานใช้เอกสารสิทธิปลอม
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา265 และ 268
จึงได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้วต่อไปแล้ว
๕ นราธิวาส ร้อยตรี สิริเขตต์ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ร้อยตรี สิริเขตต์ วาณิชบำรุง มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง จึงได้ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยแล้ว
วาณิชบำรุง ผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อความไม่สงบ ที่อยู่ในความควบคุมจนเสียชีวิต และมีมูลความผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123 จึงได้ส่งสำนวน
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยนายทหารกิจการพลเรือน หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส39 การไต่สวนข้อเท็จจริงไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้วต่อไปแล้ว