กรุงเทพ--6 พ.ค.--อย.
อย. นำทีมตรวจผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เชียงใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้ พบเครื่องสำอางทาฝ้าไม่มีฉลากภาษาไทย ส่วนใหญ่ขายตามร้านค้าแผงลอย ตรวจพบมีส่วนผสมของสารไฮไดรควิโนนและสารปรอทแอมโมเนีย ซึ่งเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอางเตือนผู้บริโภคอย่าซื้อมาใช้ อาจเป็นอันตรายได้
น.พ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าจากการที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้นำทีมเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์และรถโมบายเคลื่อนที่ออกตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์สุขภาพในท้องที่จ.เชียงใหม่เร็ว ๆ นี้ พบปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง คือ ผลิตภัณฑ์ทาฝ้าที่ไม่มีฉลากภาษาไทย ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวส่วนใหญ่มักพบตามร้านค้าแผงลอย และยังตรวจพบว่ามีการใช้สารไฮโดรควิโนน และสารปรอทแอมโนเนีย ซึ่งอย. ประกาศให้เป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอางทาฝ้า เนื่องจากสารไฮโดรควิโนนจะออกฤทธิ์กดการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีของผิวหนัง ขณะที่ใช้ฝ้าจะจางลง แต่ถ้าหยุดใช้ฝ้าก็จะกลับมาเข้มเหมือมเดิม และเมื่อใช้ไปนาน ๆ จะเกิดการทำลายเซลล์สร้างสีที่ผิวหนัง เกิดการด่างขาว และอาจทำให้ผิวหนังบริเวณที่ใช้มีสีคล้ำขึ้น คล้ายสีน้ำเงินอมดำ ถ้ามีจำนวนมาก ผิวจะกลายเป็นสีดำ รักษาไม่หาย เรียกว่าเกิด "ฝ้าถาวร" ได้ ส่วนสารปรอทแอมโมเนีย จะทำให้เกิดการแพ้แบบผื่นสัมผัส ผิวหนังจะบางและมีสีดำคล้ำ เนื่องมาจากการสะสมของสารปราอท ใต้ผิวหนัง และอาจมีการดูดซึมเข้าสู่ระบบภายในร่างกาย ก่อให้เกิดพิษต่อไต และอาจมีอาการผิดปกติของปัสสาวะ นอกจากนี้สารปรอทยังก่อให้เกิดกลุ่มอาการ Pink disease หรือ Acrodynia ทำให้มีผื่นแดงที่มือ เท้า หน้าอก กลัวแสง กระสับกระส่าย นอนหลับยาก และหัวใจเต้นเร็วผิดปกติอีกด้วย ทั้งนี้ ที่มาเจ้าหน้าที่ของ อย. ได้ตรวจพบว่าผลิตภัณฑ์ทาฝ้าชื่อ บีแอน มีส่วนผสมของสารปรอทแอมโมเนีย และครีมทาฝ้ามิกิ มีส่วนผสมของสารไฮโดรควิโนน ซึ่งผลิตภัณฑ์มิกินี้เดิมได้เคยขึ้นทะเบียนไว้กับ อย. แต่เมื่อมีการประกาศให้สารไฮโดรควิโนน เป็นสารห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์ สำหรับฝ้า ผลิตภัณฑ์ที่เคยขึ้นทะเบียนไว้และมีส่วนผสมของสารไฮโดรควิโนนจึงสามารถขายได้ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2540 ที่ผ่านมาเท่านั้น หากยังตรวจพบว่ามีการขายอยู่ ก็จะถือเป็นความผิดของผู้ขาย นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุแล้ว เพราะมีอายุหลังวันที่ ผลิตประมาณ 1 ปี เท่านั้น อย. จึงขอเตือนมายังประชาชนผู้บริโภคโดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ โปรดอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาใช้ เนื่องจากอาจได้รับอันตรายได้
รองเลขาธิการฯ น.พ. ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล กล่าวต่อไปว่า ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ทาฝ้าผู้บริโภคควรให้ความระมัดระวังเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากภาษาไทย ภาชนะบรรจุควรอยู่ในสภาพสมบูรณ์ หากมีรอยฉีกขาดหรือแตกไม่ควรซื้อมาใช้ เพราะอาจเสื่อมสภาพหรือปนเปื้อนสิ่งสกปรก และควรเลือกซื้อจากแหล่งผลิตและจำหน่าย ที่แน่นอน เชื่อถือได้ นอกจากนี้ หากผู้บริโภคพบผลิตภัณฑ์ทาฝ้าใดที่สงสัยว่าไม่ถูกต้อง โปรดแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โทร. 590-354-5 หรือผ่านสารด่วนผู้บริโภค โทร. 202-9333 กดต่อ 005 หรือที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อจะได้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป--จบ--