กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--ซีพีเอฟ
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ เปิดตัว "โครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต" 60 โรงเรียน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 60 พรรษา เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย 4 ด้าน ได้แก่ ส่งเสริมการผลิตอาหาร, ส่งเสริมระบบสุขาภิบาลอาหาร, การให้ความรู้ด้านคุณภาพอาหาร ความปลอดภัยอาหาร โภชนาการอาหาร และการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ ให้กับโรงเรียนนำร่อง 67 แห่งทั่วประเทศที่ตั้งอยู่บริเวณรอบโรงงานและฟาร์มของบริษัท เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนกว่า 14,000 คน มีภาวะโภชนาการและสุขอนามัยที่ดี
ในปี 2558 ซีพีเอฟได้ทยอยเดินสายส่งมอบโครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต ให้กับโรงเรียนนำร่องทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ ล่าสุดได้ทำพิธีส่งมอบโครงการฯ ให้กับโรงเรียนชุมชน 2 บ้านกกไม้แดง ต.ดินทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก โดยได้รับเกียรติจาก นายวิทูรัตน์ ศรีนาม รองผู้ว่าราชการ จังหวัดพิษณุโลก และ นายสุพล จันต๊ะคาด รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 2 และนายจีระ เฉลิมสถาน ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชน 2 บ้านกกไม้แดง เป็นผู้รับมอบ พร้อมมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์จำนวน 20 ทุน
โครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้เยาวชนได้บริโภคอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ถูกหลักโภชนาการ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พร้อมพัฒนาสู่แหล่งเรียนรู้ต้นแบบในโรงเรียนและชุมชนในอนาคต ซึ่งเป็นโครงการระยะยาวที่มีแนวทางการดำเนินงาน และติดตามการรายงานผลที่ชัดเจน โดยในปี 2558 จะเน้นปลูกความรู้และจิตสำนึก (Learning) ปี 2559-2560 เน้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Sharing) และปี 2561-2562 จะเน้นการพัฒนาสู่เครือข่าย (Networking) เพื่อพัฒนาให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
นายสาธิต กิจเกษตรไพศาล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟได้เข้ามาสร้างศูนย์การเรียนรู้ ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต โดยมีกิจกรรมมากมายที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้บริโภคอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ถูกหลักโภชนาการ ประกอบด้วย "แปลงปลูกผักกางมุ้ง" โดยเข้าไปถ่ายทอดองค์ความรู้จัดทำแปลงพืชผักสวนครัว การทำมุ้งครอบป้องกันแมลง ตลอดจนสอนวิธีการปลูกผักนานาชนิด อาทิ ผักบุ้ง ชะอม มะเขือ บวบ ฯลฯ เพื่อให้นักเรียนได้บริโภคผักที่สด สะอาด ปลอดภัย, "เลี้ยงปลาเพื่ออาหารกลางวัน" ซีพีเอฟได้ส่งทีมวิชาการเข้าไปให้ความรู้และสอนน้องๆ เลี้ยงปลานิลและปลาทับทิม รวม 3,000 ตัว เป็นปีแรก เพื่อเป็นแหล่งโปรตีนหลัก ทั้งยังสามารถนำปลาที่เหลือจากการประกอบอาหารในโครงการอาหารกลางวันนักเรียนไปแปรรูปขาย และนำเงินรายได้กลับมาเป็นทุนการศึกษาและกิจกรรมภายในโรงเรียน สำหรับโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน ส่งเสริมให้นักเรียนเลี้ยงไก่ไข่ ซีพี.บราวน์ จำนวน 150 ตัว นำไข่ที่ได้มาประกอบ
เป็นอาหารกลางวันเสริมสร้างโภชนาการที่ดี รวมถึงการในไปจำหน่าย ซึ่งส่งผลให้ปัจจุบันโรงเรียนสามารถมีกองทุนจากการขายไข่ 66,680 บาท
นอกจากนี้ซีพีเอฟเข้าไปถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี "บ่อไบโอแก๊สเพื่อใช้ในโรงครัว" โดยนำมูลไก่ไข่ และมูลสุกรจากฟาร์มใกล้เคียง มาก่อให้เกิดประโยชน์ด้วยการผลิตเป็นแก๊สชีวภาพ เพื่อใช้เป็นพลังงานเชื้อเพลิงสำหรับประกอบอาหารในโรงครัว ทั้งยังช่วยลดผลกระทบเรื่องกลิ่น ปัญหาแมลงวัน รวมถึง "การเจาะบ่อบาดาลและปรับปรุงระบบประปาในโรงเรียน" เพื่อสร้างระบบน้ำประปา โดยนำน้ำที่ได้ไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน อาทิ การปลูกผัก การประกอบอาหาร และการใช้ในการอุปโภค-บริโภค เป็นต้น
ซีพีเอฟมุ่งมั่นส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีสุขภาพดีทั้งด้านร่างกายผ่านการบริโภคอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย จากสถานีกิจกรรต่าง ๆ ข้างต้น และด้านสติปัญญาผ่านกิจรรม "สนามเด็กเล่น BBL (Brain Based Learning)" โดยเข้าไปสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน และกีฬาที่มีสีสันสดใส เพื่อกระตุ้นสมองและการเรียนรู้ของนักเรียนระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษาตอนต้น ให้ได้มีโอกาสเรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างมีความสุข อันนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพสมองของเขาได้อย่างเต็มความสามารถ