กรุงเทพ--3 ก.ค.--ธ.ก.ส.
กองทุนที่ดินอุบลราชธานี พร้อมเปิดรับเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ แจงเพิ่มข้อเสนอใหม่ให้เช่าที่ดินแทนการซื้อในระยะแรก เพื่อบรรเทาภาระหนี้สิน เผยผลงานในรอบ 5 ปี ช่วยเกษตรกรมีที่ดินทำกินทั่วประเทศแล้ว 2,711 ครัวเรือน
นายเอนก อนันต์ ผู้อำนวยการสำนักกองทุนที่ดิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า โครงการกองทุนที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งดำเนินการในพื้นที่อำเภอพิบูลมังสาหาร นาจะหลวย เดชอุดม และทุ่งศรีอุดม ได้จัดซื้อที่ดินจากเอกชน เพื่อนำไปพัฒนาและจัดสรรให้กับเกษตรกรแรงงานรับจ้าง หรือผู้เช่าที่ดินที่ยังไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเองแล้ว จำนวน 178 ครัวเรือน พื้นที่ 1,966 ไร่ ทั้งนี้ในส่วนของอำเภอเดชอุดม กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการจัดสรรพื้นที่ทำกินให้กับเกษตรกร ซึ่งถ้าเกษตรกรแรงงานรับจ้างท่านใดสนใจ สามารถติดต่อได้ด้วยตนเองกับธ.ก.ส.ใกล้บ้านท่าน หรือ สปก.จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นายเอนก กล่าวต่อไปว่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมาทำให้ทราบว่าเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องการเงินกู้เพื่อเป็นค่าที่ดินการเกษตรประมาณครึ่งหนึ่งของเงินกู้ทั้งหมด หรือประมาณครัวเรือนละ 2-2.5 แสนบาท ทำให้เกษตรกรต้องแบกรับภาระหนี้จำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ยังไม่มีผลผลิต ดังนั้น เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระหนี้สินดังกล่าว กองทุนที่ดินจึงมีนโยบายให้เกษตรกรสามารถเช่าที่ดินเพื่อประกอบการเกษตรได้ในระยะแรก และหากต่อไปประสงค์จะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงดังกล่าว ก็สามารถติดต่อขอกู้เงินเพื่อซื้อที่ดินต่อไปได้
นายเอนก กล่าวอีกว่า การดำเนินงานของกองทุนที่ดินมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้รับจ้างแรงงานทางการเกษตร และผู้เช่าที่ดินประกอบการเกษตร ให้มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง เพื่อเพิ่มรายได้และความมั่นคงในอาชีพ รวมถึงการหยุดยั้งการเข้าไปทำกินในเขตป่าสงวนและการโยกย้ายถิ่นฐาน ซึ่งทำให้เกิดปัญหาด้านสังคมและชุมชนเมืองในอนาคต โดยผลการดำเนินงานของกองทุนที่ดินในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา คือ 1 เมษายน 2535 - 31 มีนาคม 2540 ได้ช่วยเหลือและจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรใน 31 จังหวัด จำนวน 2,711 ครัวเรือน พื้นที่ 29,470 ไร่ โดยจ่ายเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 5 ต่อปี เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,079 ล้านบาท--จบ--