กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บล.โกลเบล็กมองดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังเผชิญมรสุมปัจจัยภายนอกประเทศไทยกดดัน ลุ้นสัปดาห์หน้า กระแสการทำ Window Dressing บวกนโยบายรัฐอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ เดินหน้าเปิดประมูล 4G ค่าเงินบาทอ่อนหนุนภาคการส่งออก แนะรอซื้อช่วงอ่อนตัว กลุ่มที่เป็นเป้าหมายการทำ Window dressing เช่น BANK รวมทั้งกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ส่วนราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวลง ให้แนวรับ 1,105-1,100 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และ แนวต้าน 1,150 –1,155 เหรียญต่อทรอยออนซ์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยรายสัปดาห์ (วันที่ 24 - 29 ก.ย. 2558) ยังถูกกดดันจากปัจจัยภายนอกประเทศ หลังจากจีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนก.ย. ลดลงแตะ 47.0 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง จากระดับ 47.3 ในเดือนส.ค.ตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นถึงภาวะหดตัว ซึ่งมีนัยสำคัญว่าอาจจะเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ยูโรโซนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นในเดือนก.ย.ลดลงแตะ 53.9 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จาก 54.3 ในเดือนส.ค. บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนมีการขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยบวกภายในประเทศนั่นก็คือการที่รัฐบาลอัดฉีดเงิน 1.36 แสนล้านบาทเข้าสู่ระบบในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการ SME และการให้เงินช่วยเหลือกองทุนหมู่บ้านในการออก "มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายปลายปี 2558 การเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐในโครงการที่ได้ศึกษาไว้แล้วและขยายวงเงินมูลค่าโครงการที่ให้เอกชนร่วมลงทุนจากเดิม 1,000 ล้านบาท เป็น 5,000 ล้านบาท เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการร่วมลงทุนมากขึ้น การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องช่วยหนุนภาคการส่งออกในไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 และการทำ Window dressing ในช่วงปลายไตรมาส 3/2558
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ประเมินกลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยว่าสัปดาห์นี้ถูกปัจจัยภายในและนอกกดดัน ได้แก่ เจ้าหน้าที่ FED ย้ำแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง โดย GDP จีนมีแนวโน้มขยายตัว 6.9% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 7% จากตัวเลข PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนก.ย. ที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปี ประกอบกับความกังวลของนักลงทุนต่อการขายทำกำไรหุ้นในพอร์ตลงทุนของ SCB ดังนั้นคาดว่า SET จะปรับตัวลงโดยมีแนวรับ 1,360 – 1,365 จุด ก่อนจะสามารถรีบาวด์จากกระแสการทำ Window Dressing ในไตรมาส 3/2558 ช่วงปลายเดือนกันยายน
ทั้งนี้แนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัว ในกลุ่มที่เป็นเป้าหมายการทำ Window dressing เช่น BANK รวมทั้งกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มอาหาร และอิเล็กทรอนิกส์ ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่าราคาทองคำปรับขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้าหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน FOMC ของเฟดที่มีมติในการประชุมช่วง 16-17 กันยายนที่ผ่านมาโดยให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป อย่างไรก็ตามราคาทองเริ่มปรับลงอีกครั้งในกรอบแคบ ๆ หลังราคาทองขึ้นมาตอบรับข่าวดังกล่าว รวมถึงแรงกดดันจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมครั้งต่อไปของเฟดซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 27-28 ตุลาคมนี้เพื่อรอดูทิศทางของดอกเบี้ยที่ชัดเจนอีกครั้ง ดังนั้นประเมินว่าราคาทองโลกขึ้นมาจบแนวขึ้นแท่งเทียน THREE WHITE CANDLESTICKS ช่วงใกล้จบแนวขึ้น ROUNDING BOTTOM ทำให้การขึ้นต่อเริ่มมีกรอบจำกัด ขณะที่แท่งเทียนเริ่มเรียงตัวเป็นแนวลงรอบใหม่และลงมาต่ำกว่าแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน ลดทอนแรงหนุนของสัญญาณ GOLDEN CROSS บวกค่าสัญญาณทางเทคนิคปรับลง ทำให้ราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวลง แนวรับ 1,105-1,100 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และ แนวต้าน 1,150 –1,155 เหรียญต่อทรอยออนซ์