กรุงเทพ--11 ส.ค.--ข่าวกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายเอกพร รักษความสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมได้ตรวจเยี่ยมสถานประกอบการในจังหวัดสมุทรสาครและสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเลคโทรนิคส์กับโรงงานผลิตกุ้งแช่แข็งเพื่อการส่งออก ทั้งนี้เพื่อหาลู่ทางในากรพัฒนาศักยภาพการผลิตของไทยในสภาวะเศรษฐกิจของประเทศประสบการชะลอตัว ส่งผลให้สถานประกอบการมากมายหลายแห่งลดต้นทุนการผลิต มีปัญหาการเลิกจ้างแรงงาน โดยมีนายสุรพล กาญจนะจิตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมคณะข้าราชการกระทรวงแรงงานให้การต้อนรับ โอกาสนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมกล่าวว่า ปัญหาการเลิกจ้างงานของสถานประกอบการในสองจังหวัดนี้ โดยเฉพาะสองบริษัทดังกล่าวไม่มี แต่กลับต้องการแรงงานเพิ่มโดยบริษัทควีนมารีนฟู้ด จำกัด ตำบลแพรกหนามแดง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ยังต้องการแรงงานเพิ่มอีกราว ๆ 100 ตำแหน่ง ฉะนั้นปัญหาที่พบคือการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งเป็นคนละด้าานกับมติครม.ที่สั่งปิดกิจการไฟแนนซ์ 42 แห่งเป็นการชั่วคราว โดยมีหลายฝ่ายเสนอภาพออกไปว่าเป็นต้นทุนแห่งความล้มละลายทางเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ใช่ เพราะจากการตรวจเยี่ยมสถานประกอบการทั้งวันนี้และที่ผ่าน ๆ มา ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ประกอบการในการรับนโยบายชะลอการเลิกจ้างหรือแม้แต่ด้านการรักษาความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อยกระดับคณะภาพสถานประกอบการของเราเข้าสู่มาตรฐานสากล เป็นการสร้างความยอมรับในสินค้าไทย ช่วยเศรษฐกิจได้ทางหนึ่ง สำหรับปัญหาแรงงานขาดแคลนจนต้องมีการนำแรงงานต่างชาติเข้ามาทดแทนเป็นเพราะที่สมุทรสงครามนั้นมีค่าจ้างที่ถูกกว่าที่สมุทรสาครทั้ง ๆ ที่อยู่ไม่ห่างไกลกัน ผู้ใช้แรงงานจึงไปทางนั้นเสียหมด การแก้ปัญหาเรื่องนี้ต้องมุ่งประเด็นไปที่กฎหมายด้านควบคุมแรงงานต่างชาติที่อยู่ในประเทศขณะนี้มีให้ออกเตร็ดเตร่ไปในที่ต่าง ๆ ให้ได้ ส่วนการตรวจเยี่ยมสถานประกอบการนั้นเป็นสิ่งที่กระทรวงแรงงานปฎิบัติงานเชิงรุกมิใช่ตั้งรับรอให้ปัญหาเข้ามาอย่างในอดีต รวมทั้งยังจะได้ให้คำแนะนำให้กำลังใจ เป็นสื่อกลางการประสานงาน เพราะหากสถานประกอบการใดมีการปฎิบัติที่ดีมีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองแล้วก็ควรได้รับการสนับสนุนและป่าวประกาศให้รับทราบทั่ว ๆ กันซึ่งเรื่องนี้ทางสื่อมวลชนก็ควรให้ความร่วมมือด้วย มิใช่เสนอข่าวแต่ในด้านเสียหายเพื่อหวังผลทางการตลาดแต่อย่างเดียว--จบ--