กรุงเทพ--13 ส.ค.--ธปท.
ตามที่กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ริเริ่มเจรจา อย่างเป็นทางการกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ เพื่อขอความช่วยเหลือทาง การเงินและแนวทางการแก้ไขเศรษฐกิจด้านต่าง ๆ โดยล่าสุด รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางไป ประชุมที่ประเทศญี่ปุ่น ตามคำเชิญของกองทุนการเงินฯ นั้น ผลการประชุมในวันที่ 11 สิงหาคม 2540 สรุปได้ดังนี้
การประชุมนี้จัดขึ้น เพื่อพิจารณาโครงการเงินกู้เพื่อสนับสนุนการดำเนิน มาตรการปรับตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุน การเงินฯ ประเทศญี่ปุ่นได้รับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และ Mr. Shigemitsu Sugisaki รองกรรมการจัดการของกองทุนการเงินฯ เป็นประธานในที่ประชุม ประเทศที่ส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมนอกจากไทยแล้ว ประกอบด้วย ออสเตรเลีย แคนาดา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา รวมทั้งผู้แทน จากธนาคาร เพื่อการพัฒนาเอเซียและธนาคารโลก
ผู้เข้าร่วมประชุมแสดงความชื่นชมในความพยายามอันเด็ดเดี่ยวของ ประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเสถียรภาพ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การคลังและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยได้ชี้แจงต่อที่ประชุม
คณะผู้บริหารของกองทุนการเงินฯ คาดว่าจะเสนอการให้ความช่วยเหลือ ทางการเงินแก่ประเทศไทยเป็นกรณีพิเศษมากกว่า 5 เท่าของโควตาของไทยใน กองทุนการเงินฯ โดยการเบิกถอนเงินกู้ในงวดแรกมีจำนวนสูงมาก (front- loaded) โครงการเงินกู้ดังกล่าวจะได้นำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารของกองทุน การเงินฯ ในระยะเวลาอันใกล้นี้
ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเกือบทุกประเทศ ซึ่งได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุม ในครั้งนี้ กล่าวว่า พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือร่วมกับกองทุนการเงินฯ ธนาคาร เพื่อการพัฒนาเอเซีย และธนาคารโลก เพื่อช่วยสนับสนุนด้านการเงินอันจำเป็นต่อ การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่เข้มงวดของไทย ในการนี้ กองทุนการเงินฯ ได้ คาดว่าประเทศไทยมีความต้องการเงินกู้ในช่วงปี 2540-2541 รวมทั้งสิ้นประมาณ 14 พันล้านดอลลาร์ สรอ. สำหรับประเทศที่เข้าร่วมประชุมที่มาจากภูมิภาคอื่นก็ได้ แสดงท่าทีที่จะให้ความช่วยเหลือในทำนองเดียวกัน โดยผ่านสถาบันการเงินระหว่าง ประเทศของตน
จากการประชุม ประเทศและองค์กรผู้เข้าร่วมได้ผูกพันวงเงินช่วยเหลือ แก่ประเทศไทยทั้งสิ้นประมาณ 16 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งรวมถึงความช่วยเหลือ จากกองทุนการเงินฯ ที่เสนอไว้ 4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. วงเงินที่เหลือจะมาจาก ฮ่องกง 1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. อินโดนีเซีย 0.5 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ญี่ปุ่น 4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. เกาหลีใต้ 0.5 พันล้านดอลลาร์ สรอ. มาเลเซีย 1 พัน ล้านดอลลาร์ สรอ. สิงคโปร์ 1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. และออสเตรเลีย 1 พัน ล้านดอลลาร์ สรอ. นอกจากนี้ เป็นที่เข้าใจว่าสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน จีนกำลังพิจารณาที่จะช่วยสมทบเงินช่วยเหลือในโครงการดังกล่าวด้วย รวมทั้ง ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเซียและธนาคารโลก ซึ่งได้แสดงท่าทีว่าจะให้ความช่วย เหลือเพื่อปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจและปฏิรูปภาคเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับมติ ของคณะกรรมการบริหารของทั้งสององค์การ ดังนั้น ที่ประชุมจึงเห็นพ้องว่าเงินกู้ที่ ประเทศไทยได้รับในครั้งนี้ เพียงพอต่อความต้องการใช้เงินแล้ว และคาดว่ากระบวน การต่าง ๆ จะแล้วเสร็จในไม่ช้า
เงินกู้ในครั้งนี้มีอายุ 3-5 ปี โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่อิงกับอัตราดอกเบี้ย ตลาด ทั้งนี้ การขอถอนเงินจากแหล่งเงินกู้ทวิภาคีจะกระทำควบคู่ไปกับการถอนเงิน จากกองทุนการเงินฯ
โดยสรุป ที่ประชุมเห็นว่าการประชุมครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ ความร่วมมือทางด้านการเงินระดับภูมิภาค และยังอาจเป็นแบบอย่างของการจัดทำ ความตกลงช่วยเหลือทางการเงินในโอกาสต่อไปอีกด้วย--จบ--