กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดน้ำป่าไหลหลากใน 2 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี และสตูล รวม 5 อำเภอ ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง อีกทั้งประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 1 – 5 ตุลาคม 2558
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)กล่าวว่า อิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้มีฝนตกกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากใน 2 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี และสตูล รวม 5 อำเภอ โดยจังหวัดปราจีนบุรี เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบริเวณน้ำตกวังบ่อ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากน้ำป่าพัด 1 ราย จังหวัดสตูล เกิดน้ำป่าไหลหลากใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอมะนัง อำเภอเมืองสตูล อำเภอควนโดน และอำเภอละงู บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 544 หลังคาเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่อำเภอมะนัง อำเภอเมืองสตูล และอำเภอควนโดน เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรในอำเภอละงู ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1 – 2 วัน ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเจ้าหน้าที่พร้อมวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยออกปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง อีกทั้ง ได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเตรียมรับมือภาวะฝนตกเพิ่มขึ้นจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 1 – 5 ตุลาคม 2558 โดยจัดเจ้าหน้าที่และประสานมิสเตอร์เตือนภัยติดตามพยากรณ์อากาศและเฝ้าระวัง สถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วย เหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200
www.disaster.go.th