กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--แบรนด์ซาลอน
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ประกาศผลรางวัล "Thailand Innofashion Awards 2015" หรือ TIFA 2015 กิจกรรมการจัดประกวดด้านการออกแบบแฟชั่น เพื่อเฟ้นหาผลงาน ออกแบบแฟชั่น ของนักออกแบบรุ่นใหม่ พร้อมพัฒนาต่อยอดสู่ผลงานนวัตกรรมแฟชั่นระดับโลก ภายใต้แนวความคิด Local Spirits to Global Trends "แรงบันดาลใจในหัตถศิลป์ สู่นวัตกรรมแฟชั่นระดับโลก" จาก 3 สาขา สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม, เครื่องหนังและรองเท้า, อัญมณีและเครื่องประดับ ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท พร้อมศึกษาดูงาน Digital Fashion Week ประเทศสิงคโปร์
นายประสงค์ นิลบรรจง ?รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยที่มีการเติบโตและมีการขยายตลาดเพิ่มมากขึ้น ไม่เฉพาะแค่ในประเทศเท่านั้นที่สร้างเม็ดเงินให้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก แต่ยังขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศอีกด้วย และเพื่อพัฒนาและต่อยอดความสามารถดังกล่าว ทาง กสอ. จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ประจำปี 2558 ขึ้น โดยมุ่งเน้น 9 เรื่องหลัก ได้แก่ 1. การพัฒนาบุคลากรด้านการผลิต โดยจะมีหลักสูตรขั้นพื้นฐาน ขั้นกลาง และขั้นสูง เพื่อสร้างบุคลากรทางด้านช่างและด้านเทคนิค 2. การพัฒนานักออกแบบรุ่นใหม่ เพื่อให้เข้าใจถึงทิศทางการเป็นมืออาชีพในวงการแฟชั่น 3. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในลักษณะของการต่อยอด โดยเน้นกลุ่มสินค้าแฟชั่นที่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง เชื่อมโยงไปสู่ภาคผลิตเพื่อก่อให้เกิดการต่อยอดพร้อมสนับสนุนไปสู่เวทีระดับนานาชาติ 4. การสร้างแรงบันดาลใจและค้นหานักออกแบบหน้าใหม่และสร้างความภาคภูมิใจ ด้วยการจัดการประกวดการออกแบบด้านแฟชั่น 5. การพัฒนาผ้าผืนทั้งในคุณสมบัติด้านการใช้งานและความสวยงามตามความต้องการของดีไซเนอร์และตลาด ด้วยการนำเอาผู้ผลิตมาคุยกับดีไซเนอร์ รวมถึงห้างสรรพสินค้า 6. การสร้างการรับรู้และภาพลักษณ์สินค้าแฟชั่นไทย ผ่านกิจกรรมการสนับสนุนการจัดงานแฟชั่น(Fashion Week) 7. การพัฒนาย่านการค้าที่เป็นธุรกิจแฟชั่น เพื่อสร้างเป็นคลัสเตอร์หรือกลุ่มเครือข่ายธุรกิจแฟชั่น 8. การพัฒนาเพื่อเพิ่ม Productivity ให้กับโรงงานผลิตในกลุ่มแฟชั่นต่างๆ เพื่อสร้างคุณภาพและมาตรฐานที่ดี และ 9. การสร้างผู้ประกอบการใหม่ (New Entrepreneurs Creation) ในกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่น
การสร้างแรงบันดาลใจและค้นหานักออกแบบหน้าใหม่เพื่อสร้างสรรค์ผลงานออกแบบแฟชั่นที่สามารถประยุกต์หัตถศิลป์ สู่นวัตกรรมแฟชั่นระดับโลก ก่อเกิดความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ไทย ด้วยการจัดการประกวดการออกแบบด้านแฟชั่น หรือ Thailand Innofashion Awards 2015 (TIFA 2015) งานครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 หลังจากประสบความสำเร็จไปในครั้งแรกในปี 2014
"Thailand Innofashion Awards 2015" หรือ TIFA 2015 จะแบ่งการประกวดออกเป็น 3 สาขา ประกอบด้วย สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนังและรองเท้า อัญมณีและเครื่องประดับ High Fashion ภายใต้แนวความคิด Local Spirits to Global Trends "แรงบันดาลใจในหัตถศิลป์ สู่นวัตกรรมแฟชั่นระดับโลก" ผู้ที่เข้าแข่งขันได้ร่วม Workshop การทำ Collection Design กับดีไซน์เนอร์ระดับกูรู เช่น คุณอดิศักดิ์ โรจน์ศิริพันธ์, อาจารย์พิมพา กำพาบ, ผศ.ดร.สุภาวี ศิรินคราภรณ์, คุณนิศารัตน์ จรัสสุนทรภัคร, คุณธีระ ฉันทสวัสดิ์, คุณเอกมล อรรถกมล และอาจารย์Tee Kawa พร้อมเรียนรู้เทรนด์แฟชั่น และนวัตกรรมแฟชั่นที่กำลังอินเทรนด์ โดยการประกวดจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท Young Talent Award (กลุ่มนักออกแบบรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ในฐานะ นักออกแบบวัยสร้างสรรค์) และProfessional Talent Award (กลุ่มนักออกแบบรุ่นใหญ่ที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญในเชิงผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าวางจำหน่ายตามท้องตลาด) ซึ่งผู้ที่ชนะรางวัลแต่ละประเภทและสาขาจะได้แสดงผลงานบนเวทีแฟชั่นโชว์รวมถึงโอกาสได้เดินทางไปเรียนรู้แนวทางแฟชั่นอัพเดทที่งาน Digital Fashion Week ประเทศสิงคโปร์
นายประสงค์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการพัฒนาศักยภาพด้านการออกแบบว่า เราได้เริ่มเปิดรับสมัครผู้เข้าประกวดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2558 ดีไซเนอร์จาก 4 ภูมิภาคของประเทศสนใจส่งผลงาน เข้าร่วมสมัคร เป็นจำนวนมากกว่า 250 ผลงาน คณะกรรมการได้ลงพื้นที่ทั้ง 4 ภูมิภาค ในจังหวัด เชียงใหม่ สงขลา ขอนแก่น และกรุงเทพฯ เพื่อเฟ้นหาผลงานจากเจ้าของผลงานตัวจริงในแต่ละรอบจนเหลือผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศ จำนวน 12 คน จากสาขาเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องหนังและรองเท้า ในกลุ่ม?Professional Talent และ Young Talent มีผลงานที่มาเดินแบบมากกว่า 60 ผลงาน ใช้ระยะเวลาผลิตผลงานมากกว่า 60 วัน โดยการแนะนำด้านการออกแบบและการผลิต จากวิทยากรประจำสาขา และผู้เชี่ยวชาญทางด้านแฟชั่น มากกว่า 10 ท่าน เพื่อให้ผลงานออกมาได้น่าสนใจมากที่สุด
สำหรับผู้ที่ชนะการประกวดในวันนี้ทั้ง 2 ประเภท ได้แก่ Young Talent Award ในแต่ละสาขาจะได้รับรางวัลเงินสดมูลค่า 30,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ ประกาศนียบัตร และโอกาสเดินทาง ไปดูงาน Digital Fashion Week ที่ประเทศสิงคโปร์ รางวัลรองชนะเลิศในแต่ละสาขาจะได้รับรางวัลเงินสดมูลค่า 10,000 บาท และประกาศนียบัตร ส่วนในกลุ่ม Professional Talent รางวัลชนะเลิศ ในแต่ละสาขาจะได้รับรางวัลเงินสดมูลค่า 70,000 บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศ ประกาศนียบัตร และโอกาสเดินทางไปดูงาน Digital Fashion Week ที่ประเทศสิงคโปร์ รางวัลรองชนะเลิศ ในแต่ละสาขาจะได้รับรางวัลเงินสดมูลค่า 30,000 บาท และประกาศนียบัตร นอกจากนี้ผู้ชนะรางวัลจะได้รับการคัดเลือกให้ได้รับทุนการศึกษาจากสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ จำนวน 1 คอร์ส รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้นกว่า 1,000,000 บาท
"กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหน่วยงานภาครัฐพร้อมเดินหน้าสนับสนุนการพัฒนาความสามารถของนักออกแบบรุ่นใหม่ พร้อมผลักดันผลงานนวัตกรรมแฟชั่นต่อยอดสู่การแข่งขันในระดับเอเชียหรือระดับโลก เพราะมองเห็นว่าที่ผ่านมานักออกแบบไทยมีความสามารถ มีความคิดที่ดี แต่ยังขาดโอกาสในการต่อยอดผลงาน หากได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องทั้งด้านความรู้ และช่องทางการขยายตลาด ก็จะสามารถแข่งขัน ในระดับโลกได้ไม่ยาก และในปีต่อๆ ไปก็จะมีโครงการให้ความรู้และพัฒนาความสามารถแบบนี้ออกมาอีกเรื่อยๆ" นายประสงค์ กล่าวสรุป.