กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) จับมือ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สานต่อโครงการ "ฝากขายสินค้าฮาลาลชายแดนใต้" ขยายจุดจำหน่ายสินค้าฮาลาลเพิ่ม 7 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนและกรุงเทพฯ เพื่อช่วยส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าฮาลาลของผู้ประกอบการชายแดนใต้ที่ได้มาตรฐานกว่า 40 รายการ อาทิ ข้าวเกรียบกือโป๊ะ สบู่รังไหมทองผสมนมแพะ กล้วยหินแปรรูป ผงกะหรี่สำเร็จรูป ฯลฯ ให้สามารถจำหน่ายได้เพิ่มมากขึ้น ผ่านเครือข่ายไปรษณีย์รวม 30 จุด อาทิ ปจ.พังงา ปณ.ป่าตอง และ ปณ.หลักสี่ เป็นต้น นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินค้าฮาลาลได้สะดวก ปณท ยังได้นำสินค้าเหล่านี้วางขายใน www.thailandpostmart.com เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการแดนใต้ยิ้มได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ดี สินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้จะต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้ 1. ผลิตโดยผู้ประกอบการในชุมชน 3 จังหวัดชายแดนใต้ 2. ได้รับรองมาตรฐาน GMP 3. มีบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน 4. มีรายละเอียดระบุในฉลากสินค้าถูกต้องครบถ้วน และ 5. ต้องมีข้อความระบุว่า "สินค้าฮาลาลชายแดนใต้" บนบรรจุภัณฑ์หรือสินค้า ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย ตั้งเป้าขยายจุดจำหน่ายสินค้าฮาลาลให้ครอบคลุมเครือข่ายไปรษณีย์ทั่วประเทศ ในปี 2559 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายตลาดการเงินและค้าปลีก โทร. 0-2831-3924, 0-2575-1439 สายด่วน 1880 หรือ THP Contact Center 1545 เว็บไซต์ www.thailandpost.co.th
นายปิยะวัตร์ มหาเปารยะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานระบบปฏิบัติการ รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้แก่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ในขณะนี้ส่งผลกระทบให้การดำเนินธุรกิจซื้อขายสินค้าในชุมชนเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำให้ผู้ประกอบการในชุมชนขาดแคลนรายได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือ พร้อมผลักดันสินค้าเด่นของชุมชนให้เป็นที่รู้จักให้สามารถจำหน่ายได้ในท้องตลาดทั่วไป รวมทั้งสร้างรายได้ให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) หน่วยงานที่มีความใกล้ชิดและอยู่เคียงคู่ชุมชนมาโดยตลอด จึงร่วมมือกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)จัดตั้งโครงการ "ฝากขายสินค้าฮาลาลชายแดนใต้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์"
นายปิยะวัตร์ กล่าวต่อว่า ในปี 2557 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินโครงการดังกล่าว โดยวางจำหน่ายในพื้นที่ที่ทำการไปรษณีย์เขต 9 ใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง คือ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา สตูล พัทลุง และ จ.ตรัง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน และในปี 2558 นี้ ไปรษณีย์ไทย จึงได้ดำเนินการขยายพื้นที่จำหน่ายไปอีก 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คือ จ.กระบี่ พังงา ภูเก็ต ระนอง นครศรีธรรมราช ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี ตลอดจนอีก 4 จุดจำหน่ายในเขตกรุงเทพฯ รวม 30 แห่ง อาทิ ปจ.พังงา ปณ.ป่าตอง ปณ.ทับเที่ยง ปณ.หลักสี่ และ ปณ.ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น อย่างไรก็ดี สำหรับสินค้าฮาลาลของผู้ประกอบการที่สามารถฝากขาย ณ ที่ทำการไปรษณีย์ได้นั้น จะต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้ 1. เป็นสินค้าที่ผลิตโดยผู้ประกอบการในชุมชน 3 จังหวัดชายแดนใต้ 2. เป็นสินค้าที่ได้รับรองมาตรฐาน GMP สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง3. มีบรรจุภัณฑ์ความเหมาะสมและได้มาตรฐาน 4. สินค้าต้องมีรายละเอียดระบุในฉลากสินค้าถูกต้องครบถ้วน 5. สินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ต้องมีข้อความระบุว่า "สินค้าฮาลาลชายแดนใต้" ซึ่งในขณะนี้ มีสินค้าฮาลาลของผู้ประกอบการพร้อมจำหน่ายแล้วทั้งสิ้น 38 ผลิตภัณฑ์ อาทิ "ลูกหยีปรุงพิเศษ" รสกลมกล่อม เผ็ดพอประมาณ ถูกหลักอนามัย "ข้าวเกรียบกือโป๊ะ" ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลาสดหลากรสชาติ กรอบอร่อย ทานเล่นได้ทุกที่ "กล้วยหินแปรรูป" ผลิตภัณฑ์
แปรรูปจากกล้วยหินนังตา ตามแบบฉบับของยะลา "ผงกะหรี่ สำเร็จรูป" ผงสมุนไพรสีเหลืองเข้ม กลิ่นหอม ช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหาร และ "สบู่รังไหมทองผสมนมแพะ" ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ช่วยให้ผิวพรรณสดใส กระชับ ไร้สิวเสี้ยน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและเลือกซื้อสินค้าฮาลาลได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ไปรษณีย์ไทย จึงได้นำสินค้าดังกล่าวขึ้นหน้าเว็บไซต์อีกด้วยอย่าง www.thailandpostmart.com เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าฮาลาล ตลอดจนสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการแดนใต้ยิ้มได้อย่างยั่งยืน พร้อมกันนี้ ไปรษณีย์ไทย เตรียมตั้งเป้าขยายจุดจำหน่ายสินค้าฮาลาลให้ครอบคลุมเครือข่ายไปรษณีย์ทั่วประเทศ ภายในปี 2559 สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายตลาดการเงินและค้าปลีก โทร. 0-2831-3924, 0-2575-1439 สายด่วน 1880 หรือ THP Contact Center 1545 และเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th นายปิยะวัตร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทย ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบเครือข่ายการขนส่งและมาตรฐานการให้บริการที่เป็นเลิศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของธุรกิจและคนไทยในทุกระดับ ทุกพื้นที่ ด้วยศักยภาพของเครือข่ายที่ทำการไปรษณีย์ที่ครอบคลุมกว่า 5,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ไปรษณีย์ไทยเป็น "เครือข่ายไปรษณีย์ไทย....เครือข่ายที่ขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่เวทีโลก" อย่างเต็มภาคภูมิ