กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--โพลาริส แคปปิตัล
ดร. ญาณกร วรากุลรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โพลาริส แคปปิตัล(POLAR) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) ของบริษัทวันที่ 28 ก.ย. 2558 มีมติอนุมัติวาระสำคัญดังนี้
1. ยกเลิกการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง(PP) ที่เหลือทั้งจำนวน 14,915,000,000 หุ้นซึ่งเป็นจำนวนหุ้นที่เหลือหลังการจัดสรร PP เพิ่มเติมจำนวน 4,000,000,000 หุ้น ตามที่ประธานคณะกรรมการบริหารจัดสรรเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2558 และให้ดำเนินการลดทุนจดทะเบียนโดยยกเลิกหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดที่สำรองไว้เพื่อรองรับการจัดสรร PP ดังกล่าว ทั้งนี้จะลดทุนจดทุนจดทะเบียนจาก 995,806,605,840 บาท เป็น501,694,853,490 บาท โดยยกเลิกหุ้นสามัญจำนวน 16,470,391,745 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 30 บาท โดยการลดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้จำหน่ายซึ่งเป็นหุ้นที่เหลือจากการจัดสรรการเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) และหุ้นที่ออกเพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 1 (POLAR-W1)
2. เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 4 (POLAR-W4) จำนวน 12,514,951,720 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (RO) และให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR) จากเดิมไม่เกินจำนวน 42,574,758,600 หน่วย เป็นจำนวนไม่เกิน 62,574,758,600หน่วย โดยไม่คิดมูลค่าในอัตรา 1 หุ้น ได้รับจัดสรร TSR 5 หน่วยโดยมีแผนจะนำไปลงทุนในธุรกิจหลักอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท อีกทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเงินทุนเพื่อรองรับการขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆที่ให้ผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทในอนาคต
3. เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจาณาอนุมัติออกและเสนอหุ้นกู้แปลงสภาพ (Convertible Debenture) ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และต่างชาติ ซึ่งผู้ลงทุนดังกล่าวจะไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทจำนวนไม่เกิน1,930,000,000บาท และออกหุ้นสามัญไม่เกินจำนวน 16,500,000,000 หุ้น เพื่อรองรับการแปลงสภาพและเพื่อนำเงินที่ได้รับมาใช้ เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทรองรับการขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และอื่นๆอีกทั้งเป็นแหล่งเงินทุนนำไปชำระหนี้หรือช่วยเสริมเงินทุนที่จะขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพิ่มด้วย โดยการออกหุ้นกู้แปลงสภาพมีข้อดีคือ มีต้นทุนต่ำกว่าการกู้ยืมสถาบันการเงิน (ดอกเบี้ย) สามารถออกและเสนอขายได้ตามความต้องการใช้เงินของบริษัทซึ่งไม่ต้องมีหลักประกันหรือผู้ค้ำประกัน และไม่ต้องคืนเงินต้นหากนักลงทุนใช้สิทธิแปลงสภาพ
4. มีมติให้ดำเนินการศึกษาเกี่ยวกับการนำบริษัท แพลทตินั่ม ออโต้ เซอร์วิส จำกัด (Platinum) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 99.99% ของทุนเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (IPO) และต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Right) เพื่อเป็นการรักษาสิทธิของผู้ถือหุ้นให้มากที่สุด
5. มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม501,694,853,490บาท เป็น 3,372,290,993,490บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 95,686,538,000หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้(พาร์) หุ้นละ 30บาท ประกอบด้วยเพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลง TSR,POLAR-W4รวมถึงรองรับการแปลงสิทธิหุ้นกู้แปลงสภาพ รองรับการใช้สิทธิแปลงPOLAR-W2 และ POLAR-W3ขณะที่มีมติเปลี่ยนแปลงวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้ง 1/2558 (Record Date) จากเดิมวันที่ 8 ต.ค.2558 เป็น 21 ต.ค.2558 อีกทั้งมีมติเลื่อนวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2558 จากเดิมวันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ย.2558 เป็นวันศุกร์ที่ 13 พ.ย. 2558 เวลา 14.00น. ณ ห้องบอลรูม ชั้น 3 โรงแรมเดอะแกรนด์โฟร์วิงส์คอนเวนชั่น
ดร. ญาณกร ยังกล่าวต่อไปอีกว่า
"การที่เรายกเลิกการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (Private Placement) และเปลี่ยนเป็นการเพิ่มทุนแบบให้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR) และแถมออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 4 (POLAR-W4) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้สิทธิ์อย่างเท่าเทียมและหากไม่อยากเพิ่มทุนก็สามารถนำสิทธิ์ไปเปลี่ยนมือได้ในตลาดหลักทรัพย์"
"วัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนรอบนี้คือเพื่อเป็นเงินทุนใช้พัฒนาโครงการ The Sherwood London ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2560 ต้นปี มูลค่าโครงการกว่า 7000 ล้านบาท และเพื่อลงทุนพัฒนาที่ดินเฟสที่เขาหลัก แฟสแรกโดยมีแผนพัฒนาเป็นโครงการบ้านพักตากอากาศขนาดใหญ่ในรูปแบบ Pool Villa จำนวน 80 ยูนิต ที่จะบริหารโดยโรงแรมระดับ 5 ดาว โดยมูลค่าก่อสร้างประมาณ 1,500 ล้านบาท"