กรุงเทพ--29 มิ.ย.--กระทรงแรงงาน
นายผัน จันทรปาน ปลัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เปิดเผยว่า กรมประชาสสงเคราะห์กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรีและมูลนิธิวิเทศพัฒนา สนับสนุนงบประมาณรับแรงงานกลับคืนภาคเกษตรด้วยโครงการรวมน้ำ + ใจ ถวายในหลวง ประยุกต์รูปแบบมูลนิธิชัยพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ทำเกษตรผสมผสานลักษณะเพื่อกินเพื่ออยู่ เหลือจึงขาย (SELF - SUFFICIENCY) มีรายได้สุทธิครอบครัวละ 40,000 บาท/ปี โดยสามารถรับแรงงานได้ร่วม 4,000 ครอบครัว
นายผัน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงแรงงานฯ เป็นหน่วยงานที่จัดสรรที่ทำกินและพัฒนาอาชีพ โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483 ปัจจุบันได้นำโครงการรวมน้ำ + ใจ ถวายในหลวง มาแก้ไขการขาดน้ำเพื่อการเกษตรรูปแบบเกษตรผสมสผานตามรูปแบบมูลนิธิชัยพัฒนา โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักนายกรัฐมนตี และมูนิธิวิเทศพัฒนา (วทพ.) ดำเนินงานในรูปกลุ่มเกษตรกรรวมน้ำ + ใจ เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ขุดสระความจุ 2,400 ลูกบาศก์เมตรเมตร (20 x 40 x 3 เมตร) ทำการเกษตรรอบสระเนื้อที่ 2-5 ไร่ เพื่อกินเพื่ออยู่และมีรายได้เหลือสุทธิครอบครัวละ 40,380 บาท/ปี การดำเนินการจะได้รับเงินค่าขุดสระ 13,000 บาท/สระ จากสำนักนายกรัฐมนตรี และมูลนิธิชัยพัฒนา (วทพ.) เพื่อหมุนเวียนขุดสระให้สมาชิก 3 คนใน 3 ปี และใช้เป็นเงินทุนประกอบอาชีพหมุนเวียนของกลุ่มในปีที่ 4 ซึ่งปี 2540 ส่งเสริมสมาชิกไปแล้ว 274 ราย
นายผันฯ กล่าวในตอนท้ายว่า ในปี 2541 จากสภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจ กรมประชาสงเคราะห์ร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรีจะดำเนินการโครงการเพื่อจะรองรับสมาชิกนิคมและประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนจากการตกงานที่สมัครใจจะประกอบอาชีพการเกษตร ซึ่งมีที่ดินเป็นของตนเองทั่วประเทศได้ถึง 3,730 ครอบครัว โดยได้รับเงินสนับสนุนขุดสระจากสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสงเคราะห์สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนสำหรับลงทุนค่าพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ครอบครัวละ 3,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นน 11.19 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้รับการช่วยเหลือ จากมูลนิธิวิเทศพัฒนา (วทพ.) สนับสนุนการขุดสระให้แก่สมาชิกนิคม จำนวน 155 สระ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 100 สระ และกรมประชาสงเคราะห์สนับสนุนรถขุดสระ จำนวน 210 สระรวมการส่งเสริมโครงการรวมน้ำ + ใจ ถวายในหลวง ของกรมประชาสงเคราะห์ในปี 2541 จำนวน 465 สระ--จบ--