กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--มรภ.สงขลา
รวช.ศึกษาฯ ประชุมร่วมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคใต้ รับฟังปัญหาการทำงาน มรภ.สงขลา ชี้สร้างความเข้มแข็งวิจัย จัดการเรียนการสอนบนพื้นฐานความรู้จริง ฟากที่ปรึกษาฯ ขอรัฐหนุนงบช่วย 4 เรื่องใหญ่
เมื่อเร็วๆ นี้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เดินทางมายังมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เพื่อประชุมร่วมกับอธิการบดีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ยะลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต เลย นครปฐม และ ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ซึ่งอธิการบดีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏแต่ละแห่งได้สะท้อนปัญหาในการทำงาน โดยเฉพาะด้านความเหลื่อมล้ำและงบประมาณที่มีจำกัด ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ราชภัฏมีศักยภาพในการสร้างคนเพื่อพัฒนาท้องถิ่น และเป็นสถาบันการศึกษาที่ทำงานในพื้นที่อย่างแท้จริง ดังนั้น จึงย่อมต้องเข้าใจถึงความต้องการของท้องถิ่นและตอบโจทย์ท้องถิ่นได้ดีที่สุด ซึ่งมหาวิทยาลัยควรตระหนักถึงบทบาทของตนเอง อีกเรื่องคือ อยากให้มีการยกระดับการแข่งขันทางภาษา ซึ่งหากต้องการให้เด็กคิดเป็นก็ควรใช้ข้อสอบอัตนัย เหตุผลที่เด็กไทยไม่เก่งภาษาอังกฤษ เพราะเราไม่เคยทดสอบเรื่องการพูด การใช้ข้อสอบปรนัยทำให้ภาษาอังกฤษของเด็กไทยยิ่งแย่ลง โดยหลังจากนี้จะนัดประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏ และเปิดโอกาสให้คนที่จะเรียนมีโอกาสได้เรียน
รศ.ดร.สุนทร โสตถิพันธุ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) กล่าวว่า ราชภัฏยังคงรักษาอัตลักษณ์ความใกล้ชิดกับท้องถิ่น มหาวิทยาลัยควรเป็นสถานที่ที่ผู้เรียนสามารถมีความสุข และสนุกไปกับการเรียนรู้ ดังนั้น ควรจัดการเรียนการสอนบนพื้นฐานของความรู้จริง และมีความเข้มแข็งทางการวิจัย เช่นเดียวกับการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยทางฝั่งยุโรป
ด้าน ดร.สว่าง ภู่พัฒน์วิบูลย์ ที่ปรึกษาที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ กล่าวว่า ราชภัฏมีจุดยืนในการเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น อยากให้รัฐเข้าใจและให้โอกาสราชภัฏ ตนมี 4 เรื่องที่อยากให้กระทรวงศึกษาธิการช่วยสนับสนุนงบประมาณ คือ 1. โครงการทุนบุคลากร 2. โครงการพัฒนามหาวิทยาลัยกลุ่มใหม่ 3. โครงการผลิตครู และ 4. สนับสนุนการทำวิจัย ซึ่งหากสามารถทำใน 4 เรื่องนี้ได้ ก็จะช่วยเสริมศักยภาพและสร้างความเข้มแข็งในการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏได้มากขึ้น