กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--OutDoor PR Plus
"SIMA ASEAN Thailand 2015" งานเกษตรที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียนได้จบลงอย่างสวยงามด้วยความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่จากความร่วมมือเป็นอย่างดีเยี่ยมจาก อิมแพ็ค คอมเอ็กโพเซียม จากประเทศฝรั่งเศส และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายในงานได้มีผู้ประกอบการมาร่วมออกบูธแสดงสินค้าอย่างคับคั่งจากกว่า 300 บริษัทและแบรนด์ดัง จาก 23 ประเทศ ผู้เข้าชมงานร่วม 13,200 คน จากภาคธุรกิจเกษตรทั้งชาวไทย และต่างชาติ กว่า 56 ประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน อินเดีย อิตาลี สเปน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ กัมพูชา พม่า เวียดนาม และ ลาว เป็นต้น นอกจากนี้ผู้เยี่ยมชมยังได้ตื่นตาตื่นใจกับพาวิเลียนนานาชาติจากประเทศจีน และไต้หวัน ทำให้มียอดเงินสะพัดมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านบาท ตลอดทั้ง 3 วันการจัดงาน คือวันที่ 17 – 19 กันยายน ที่ผ่านเมื่อเร็วๆนี้ นับเป็นจุดประกายที่สำคัญสำหรับอนาคตอุตสาหกรรมการเกษตรในภูมิอาเซียน รวมทั้งการก้าวสู่การแข่งขันในตลาดเกษตรโลกในอนาคต
นางสาวพรพรรณ บุลเนอร์ ผู้อำนวยการ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นจ์ จำกัด ในฐานะผู้จัดงานกล่าวว่า "งาน SIMA ASEAN Thailand 2015 ครั้งแรก ณ ประเทศไทยกลายเป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่ของการนำเสนอนวัตกรรม เครื่องจักร และอุปกรณ์การเกษตร ที่เหมาะกับความต้องการของภูมิภาคอาเซียน รวมถึงเทคโนโลยีทางการเกษตรสมัยใหม่ นอกจากนี้ เวทีการประชุมนานาชาติ และเวิร์คช็อป-สัมมนาที่ได้ให้ความรู้เชิงวิชาการ ก็ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างดีเกินความคาดหมาย นับว่าสามารถตอบโจทย์ร่วมทั้งช่วยพัฒนาศักยภาพเกษตรกรไทยให้ทันกับเทคโนโลยีในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี"
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ อิมแพ็ค มั่นใจที่สุดว่าการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ล้ำนำสมัยมาแสดง เช่น นวัตกรรมรถแทรกเตอร์ เครื่องจักร และอุปกรณ์การเกษตรอย่างครบวงจร ได้ตอบโจทย์เกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้เยี่ยมชมได้อย่างดี จากความสำเร็จของงาน "SIMA ASEAN Thailand 2015" ครั้งแรกในอาเซียนนี้ ส่งผลทำให้มีผู้ประกอบทั้งไทยและต่างประเทศรวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องได้เริ่มทยอยทำการจองพื้นที่งาน "SIMA ASEAN Thailand 2016" ในปีถัดไปแล้วกว่า 20% โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 10 กันยายน 2559 ณ อาคาร 5 - 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานีถือเป็นการตอกย้ำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านการเกษตรในระดับอาเซียน ต่อเนื่องสู่ระดับโลกได้ในอนาคตอย่างมั่นคง