กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
'เอื้อวิทยา' เดินหน้าเทกโอเวอร์โรงไฟฟ้าต่อเนื่อง ล่าสุด ปิดดีลเพิ่มอีก 2 โรง กำลังผลิตรวมกว่า 17.4 เม็กกะวัตต์ พร้อมสัญญาขายไฟ IRR สูง 26% ตุนโรงไฟฟ้าเข้าพอร์ทรวมแล้วเกือบ 40 เม็กกะวัตต์ ย้ำลุยตามแผนที่ประกาศไว้ สร้างรายได้ก้าวกระโดด
นายพีรทัศน์ ธนรัชต์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าชีวมวล 2 แห่ง กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ และ 7.5 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเป็นการเข้าซื้อหุ้น 100% ซึ่งจะใช้เงินลงทุน และปรับปรุงเครื่องจักรทั้ง 2 แห่ง รวมทั้งสิ้น 923 ล้านบาท ทั้งนี้มีอัตราผลตอบแทนการลงทุน หรือ Leverage IRR เฉลี่ยสูงกว่า 26% คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้รวมจากการขายไฟประมาณ 350 ล้านบาทต่อปี และจะเริ่มรับรู้รายได้ในต้นปี 2559 ทันที หลังจากที่เข้าปรับปรุงเครื่องจักร และเดินระบบ
ในขณะเดียวกันการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งนี้ ถือเป็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์ ที่มีขนาดรายการถึงเกณฑ์ที่จะต้องขออนุมัติผู้ถือหุ้น โดยบริษัทฯ ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ หรือ IFA แล้ว เพื่อให้ความเห็นต่อผู้ถือหุ้น และจะจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 นี้โดยการตัดสินใจเข้าลงทุนโครงการดังกล่าว บริษัทฯ ได้ทำการตรวจสอบสถานภาพโรงไฟฟ้า หรือ Due Diligence ทั้ง 2 แห่ง ทั้งด้านกฎหมาย ด้านการเงิน และด้านเทคนิค มากว่า 3 เดือนแล้ว และมีความพร้อมที่จะเข้าไปปรับปรุงเครื่องจักร ให้สอดคล้องกับเชื้อเพลิงชีวมวลผสมผสาน ที่บริษัทฯ มีความชำนาญ
โดยโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ดินติดกัน จึงทำให้เกิดประสิทธิภาพ ทั้งในการบริหารจัดการ และการจัดส่งเชื้อเพลิง และที่สำคัญบริษัทฯ มีการวางแผนงานด้านพื้นที่ปลูกต้นเนเปียร์ และการจัดการเชื้อเพลิงชีวมวลในพื้นที่ไว้เบื้องต้นแล้ว โดยบริษัทฯจะจัดหาที่ดินในการปลูกพืชพลังงาน ผนวกกับให้คนในพื้นที่โดยรอบที่มีที่ดินเป็นของตัวเอง มีส่วนร่วมในการพัฒนาพืชพลังงานควบคู่ไปกับการดำเนินการโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัทฯ อีกด้วย
'เรายังคงเดินหน้าตามแผนงาน ที่จะเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการลงทุนทุกครั้ง บริษัทฯมีการศึกษารายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบด้าน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า ให้กับบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ โดยเราเชื่อมั่นว่าการลงทุนด้านพลังงานของบริษัทฯ จะเดินหน้าไปได้ตามแผนอย่างต่อเนื่อง และจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีหน้า' นายพีรทัศน์กล่าว
ส่วนการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น หรือ Record Date คือวันที่ 4 พฤศจิกายน 2558 และปิดสมุดทะเบียนพักการโอนในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 โดยในการประชุมครั้งนี้ จะมีวาระการขออนุมัติออกหุ้นกู้มูลค่า 2,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินที่ได้มารองรับกับการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานของบริษัทฯ ที่มีแผนการลงทุน และสร้างความเติบโตทางรายได้อย่างชัดเจนในปี 2559 นี้