กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--IR network
บมจ.ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) แย้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/58 สดใส เริ่มรับรู้รายได้จาก "อันดามันเพาเวอร์ฯ" หลังเข้าถือหุ้น 93% ขณะที่แนวโน้มในไตรมาส 4/58 ดีต่อเนื่อง เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาฯ "เดอะพีโน่ เขาใหญ่" เข้ามาช่วยเสริม ด้านผู้บริหาร "นพพล มิลินทางกูร" ย้ำบริษัทยึดหลักธรรมาภิบาลที่ดี โปร่งใส ตรวจสอบได้ และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ พร้อมเดินหน้าศึกษาการลงทุนในธุรกิจพลังงานโครงการอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง
นายนพพล มิลินทางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) (UPA) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2558 มีโอกาสออกมาในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากทยอยรับรู้รายได้จากการเข้าไปถือหุ้นใน บริษัท อันดามันเพาเวอร์ แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด จำนวน 93% ของหุ้นสามัญทั้งหมดของ Andaman Power และคาดว่าในไตรมาส 4/2558 ผลการดำเนินงานของบริษัทจะขยายตัวต่อเนื่อง เนื่องจากคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากการโอนห้องชุด โครงการคอนโดมิเนียมเดอะพีโน่ ที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เข้ามาสนับสนุนด้วย
"UPA ได้เข้าไปซื้อหุ้น Andaman Power จำนวน 93% เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากการเข้าไปลงทุนดังกล่าวในไตรมาส 3/2558 เป็นต้นไป ส่วนไตรมาส 4/2558 บริษัทจะมีรายได้จากการโอนห้องชุดของธุรกิจอสังหาฯ และรายได้จากการขายไฟฟ้าของ Andaman Power เข้ามาสนับสนุน จึงคาดว่าผลประกอบการในไตรมาสดังกล่าวจะออกมาดี" นายนพพล กล่าว
ส่วนธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในประเทศเมียนมาร์ ประเมินว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากปริมาณไฟฟ้าที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ขณะเดียวกันประเทศดังกล่าวยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจากประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมารัฐบาลทั้ง 3 ประเทศ (เมียนมาร์-ไทย-ญี่ปุ่น) ยังมีการลงนามบันทึกเจตจำนงในการพัฒนาโครงการทวายในระดับไตรภาคีอีกด้วย
นอกจากนี่ บริษัทยังมีแผนจะขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการลงทุนในโครงการด้านพลังงานอื่นๆ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย กล่าวอีกว่า บริษัทได้รับความเชื่อถือและมีสัมพันธภาพที่ดีกับรัฐบาลเมียนมาร์ หลังจากที่ดำเนินโครงการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (Dawei Special Economic Zone: DSEZ) ประเทศเมียนมาร์ สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมโครงการแรก ดังนั้นขอให้นักลงทุนเชื่อมั่นในแนวทางการดำเนินงานของบริษัทที่ยึดหลักธรรมาภิบาลที่ดี มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ นอกจากนี้ยังคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นรวมทั้งตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน มั่นคง ภายใต้ความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย