กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--เค พลัส พีอาร์
เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ เปิดมิติใหม่วงการนายหน้าประกันภัยรถยนต์ ประกาศจับมือ 5พันธมิตรจัดข้อเสนอที่เหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายผู้ซื้อรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ และโตโยต้า "ธวัชชัย ชีวานนท์" บอสใหญ่มั่นใจ ดันเป้ายอดเบี้ยรับรวมปี 59 โต 25% จากปี 58 ที่คาดว่ายอดเบี้ยรับรวมจะอยู่ที่1,100 ล้านบาท ขณะที่ 5 พันธมิตรฟันธงผลิตภัณฑ์จะเหมาะสมทั้งราคาและความคุ้มครอง ทั้งเชื่อดัน เอเอสเอ็น สู่อันดับนายหน้าที่มียอดขายติด TOP 10 ของตลาดประกันภัยรถยนต์
นายธวัชชัย ชีวานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยประกันภัยรถยนต์ และประกันชีวิต ที่ได้มาตรฐานระดับแนวหน้าของไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้สร้างมิติใหม่ให้กับธุรกิจนายหน้าประกันภัยรถยนต์ ด้วยการจับมือกับ 5 บริษัทประกันภัยรถยนต์ระดับแนวหน้า ขยายฐานลูกค้าในกลุ่มประกันภัยรถยนต์ ด้วยการร่วมกันจัดหาแพ็คเกจประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จำหน่ายตรงถึงลูกค้าในระบบการขายผ่านโทรศัพท์ หรือ เทเล มาร์เก็ตติ้ง (Tele Marketing) เพื่อให้การขายในแต่ละครั้งประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น และลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุดในสินค้าและบริการที่บริษัทฯได้นำเสนอ โดย 5 บริษัทประกันภัยรถยนต์ที่เข้าร่วมในโครงการดังกล่าวประกอบด้วย บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท
นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท สินทรัพย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน)
"ความร่วมมือกับ 5 พันธมิตรดังกล่าว เป็นการขยายฐานลูกค้าของบริษัทฯ และพันธมิตรให้เพิ่มขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลลูกค้าของเอเอสเอ็น โบรกเกอร์ ที่มุ่งพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางธุรกิจ ซึ่งฐานข้อมูลที่มีอยู่ดังกล่าวจะถูกนำมาใช้เพื่อร่วมวิเคราะห์ และจัดหาแพ็คเกจผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่ใช้รถในแต่ละประเภท และแต่ละยี่ห้อเพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากการซื้อประกันภัยรถยนต์หนึ่งกรมธรรม์ โดยในช่วงแรกจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่ใช้รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ และโตโยต้า ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในประเทศไทย ก่อนจะขยายไปสู่กลุ่มอื่นๆ ต่อไป ซึ่งมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และเอเอสเอ็น โบรกเกอร์เอง" นายธวัชชัย กล่าว
กรรมการผู้จัดการ เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ กล่าวต่อว่า ความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้ง 5 รายในครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นสำหรับการขยายฐานธุรกิจร่วมกันระหว่างบริษัทโบรกเกอร์และบริษัทประกัน ซึ่งในอนาคตบริษัทฯ อาจมีความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจรายอื่นๆ หรือขยายความร่วมมือระหว่างกันไปยังกลุ่มลูกค้าอื่นๆ ต่อไป โดยใช้ฐานข้อมูลเดิมที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ บริษัทฯ จะยังพัฒนาระบบฐานข้อมูลลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากการซื้อประกันภัยที่เหมาะสม ในขณะเดียวกันมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนให้เบี้ยรับของบริษัทฯ เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยในปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมโตขึ้น 25% จากปี 2558 ที่คาดว่าเบี้ยรับรวมจะอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการเติบโตในอัตราที่สูงกว่าอุตสาหกรรมประกันภัย ที่มีคาดการณ์ว่าจะเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวเท่านั้น
ดร.สมนึก สงวนสิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สินทรัพย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างเอเอสเอ็น โบรกเกอร์ และ สินทรัพย์ประกันภัย ในครั้งนี้ เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าเฉพาะที่มีกำลังซื้อสูง และมีพฤติกรรมการใช้รถดี สถิติความเสียหายอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ซึ่งนับจากนี้ สินทรัพย์ประกันภัย จะร่วมมือกับ เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ พัฒนากลุ่มลูกค้าในระยะยาวร่วมกันโดยจะปรับความสมดุลของราคาและความคุ้มครองให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อประกันได้ง่ายขึ้น
"เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ เป็นบริษัทนายหน้าที่มีโครงสร้างและแนวทางการทำงานคล้ายกับเรา ซึ่งมีการทำงานที่ชัดเจน ระบบการขายมีคุณธรรม ทำให้การทำงานระหว่างกันราบรื่น เราเชื่อมั่นว่าในที่สุด เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ จะมียอดขายติด TOP 10 และเราจะเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจระหว่างกันตลอดไป อย่างมีธรรมาภิบาล ยึดมั่นตามมาตรฐานสากล ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ." ดร.สมนึก กล่าว
นายสมบูรณ์ วงศ์รัศมี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ KPI กล่าวว่า KPI และ เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ จะร่วมเดินหน้าขยายโครงการใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพ และจะพัฒนาบริการให้ทันสมัย รวดเร็ว สร้างรายได้จากฐานลูกค้าใหม่ให้เพิ่มขึ้น เพื่อเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจร่วมกัน โดยบริษัทฯ จะส่งเสริมให้ เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ ได้แสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่
"เราเป็นบริษัทประกันภัยที่มีธนาคารกรุงไทยถือหุ้น ซึ่งถือว่าเรามีโอกาสในการขยายฐานลูกค้า ที่ถือเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจ อีกทั้งเราเป็นบริษัทหนึ่งที่มีประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจประกันภัยมายาวนานและมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง พร้อมที่จะขยายธุรกิจร่วมกับ เอเอสเอ็น เป็นอย่างดี ซึ่ง เอเอสเอ็น ก็เป็นโบรกเกอร์ที่มีศักยภาพในการบริการลูกค้า มีจรรยาบรรณในการทำงาน มีความเป็นมืออาชีพ และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด" นายสมบูรณ์ กล่าว
ดร.ศรัณฐ์ หวั่งหลี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบริษัทฯ พร้อมให้การสนับสนุน เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ อย่างเต็มที่ โดยเปิดโอกาสให้ใช้ศักยภาพการทำธุรกิจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างกันในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งความสำเร็จทางธุรกิจ ของทั้งสองฝ่าย ขณะที่ลูกค้าจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ จากกรรมธรรม์ที่ให้ผลประโยชน์ตอบแทนที่เหมาะสม
นายหลักชัย สุทธิชูจิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างกันในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งความพึงพอใจของลูกค้า และเชื่อมั่นว่าด้วยความตั้งใจบวกกับประสบการณ์ในการทำธุรกิจมากว่า 10 ปี ในที่สุดแล้ว เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ จะประสบความสำเร็จทางธุรกิจ และเป็นโบรกเกอร์ที่อยู่ในใจของลูกค้าตลอดไป
นายธีระ นิลสลับ รองประธานบริหารสายงานการตลาดและการขาย บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือกับ เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ ในครั้งนี้ ถือเป็นโครงการพิเศษ เป็นความร่วมมือระยะยาว ที่จะทำให้การทำตลาดง่ายขึ้นและมีประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ทั้งผู้เอาประกัน, บริษัทประกันภัย และนายหน้าประกันภัย
"จุดเด่นของ เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ คือมีผู้บริหารเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีแนวทางการทำตลาดที่ฉีกไปจากรูปแบบเดิมๆ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับ เอเชียประกันภัยที่ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด เพื่อให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน ตลอดจนบุคลากรของ เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และอยู่ในธุรกิจมานานกว่า 10 ปี จึงมั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ความร่วมมือระหว่างกันประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก" นายธีระ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับจุดแข็งของ เอเชียประกันภัย คือ มีความแตกต่างจากบริษัทอื่น คือ Pot mixของบริษัทฯ จะมีอัตราส่วนของเบี้ยประกันแบบ 2+ 3+ มากกว่าประกันภัยรถยนต์ชั้นหนึ่ง เนื่องจากบริษัทฯ เป็นผู้คิดค้นกรมธรรม์ประเภทนี้ ดังนั้นการให้ประกันภัยต่างๆ จะเน้นให้สอดคล้องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ นอกจากนี้การพัฒนาแบบประกันภัยรถยนต์ ก็เป็นลักษณะที่หลากหลาย เช่น 2+ 3+ 35+up Moto3+เป็นต้น