กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียมตามแนวสถานีขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล พร้อมเข้าซื้อขายใน SET 7 ต.ค. นี้ มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับดี ผู้บริหาร "พีระพงศ์ จรูญเอก" การันตีในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ ลุยเปิดโครงการใหม่เพียบ หวังปั้มรายได้ปีหน้าโตเท่าตัว หลังเทรดเปิดโครงการ "ดิ โอเชียน ไนท์บริดท์ ศรีราชา" ทันที นักวิเคราะห์มั่นใจธุรกิจโดดเด่น พื้นฐานแกร่ง โดยประเมินราคาเหมาะสมที่ 12-12.55 บาท/หุ้น มอง CAGR ของรายได้ปี 2558-2560 โต เฉลี่ย 108% ต่อปี
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้นับเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างแบรนด์ของ "ORIGIN" ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นทั้งในกลุ่มของผู้ซื้อคอนโด และนักลงทุน รวมถึงเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจให้กับบริษัทฯและผู้ซื้อคอนโดในระยะยาว
ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้พัฒนาโครงการในหลายพื้นที่ที่มีศักยภาพทั้งในแถบรอบนอกกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมทั้งแนวเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะโครงการ ดิ โอเชียน ไนท์บริดท์ ศรีราชา หลังจากมีการสำรวจพบว่า ศรีราชา มีความต้องการที่อยู่อาศัยสูงขึ้นทุกปี และจัดเป็นไฮไลน์สำคัญในด้านของทำเล และความสะดวกเรื่องการเดินทาง ซึ่งโครงการดังกล่าวเจาะกลุ่มลูกต่างชาวต่างชาติเป็นหลัก และคาดว่าจะเปิดขายโครงการอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมนี้ นอกจากนี้ยังมีแผนโครงการใหม่ๆในช่วงที่เหลือของปีนี้ประมาณ 3-4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้หลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งปรเทศไทยแล้วจะส่งผลให้ฐานะทางการเงินของบริษัทฯมีความมั่นคงมากขึ้น บวกกับกระแสเงินสดในอนาคตจากการโอนห้องตาม Backlog ของโครงการที่มีแผนชัดเจน และยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต จึงมั่นใจว่าบริษัทฯ จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมภายในปี 2560 ได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้คาดว่ารายได้ในปี 2559 จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวหรือประมาณ 4,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีนี้ที่ตั้งเป้ารายได้ แตะระดับ 2,000 ล้านบาท ซึ่งพิจารณาจากยอด Back Log ในมือ ณ สิ้นไตรมาส 2/58 ประมาณ 5,376 ล้านบาท และบริษัทฯ เตรียมเปิดโครงการเพิ่มในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้าอย่างต่อเนื่อง จึงมันใจว่าทำได้ตามเป้าอย่างแน่นอน
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)ในฐานะผู้ที่ปรึกษาทางการเงินและ ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ เปิดเผยว่า ด้วยความโดดเด่นของทำเล และสไตล์การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ แบบ "บลูโอเชียน" มั่นใจว่า ORI เป็นบริษัทฯ ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต ดังนั้นจึงอยากให้นักลงทุนมั่นใจว่าหุ้น ORI จะไม่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนอย่างแน่นอน
" ORI หุ้นน้องใหม่ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีศักยภาพเติบโตที่โดดเด่น จากการใช้กลยุทธ์ด้านการเลือกทำเลที่มีอนาคต โดยเฉพาะแนวสถานีรถไฟฟ้า เป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความสะดวกด้านการเดินทาง "
ด้านบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ 4 ราย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด ประเมินจุดเด่นของ ORI ว่าบริษัทเน้นพื้นที่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงแต่มีการแข่งขันน้อย จะสร้างโอกาสในการทำกำไรที่น่าตื่นเต้นต่อโครงการของบริษัท แม้ว่าวิธีนี้จะมาพร้อมความเสี่ยงในการพัฒนาที่สูง แต่ทาง ORI มีการเก็บข้อมูลเชิงลึกและศึกษาความเป็นไปได้ก่อนดำเนินงานโครงการ ทำให้ ORI ประสบความสำเร็จในการบุกทำเลย่านสุขุมวิท 103-115 และยังมีการขยายตัวออกไปยังทำเลใหม่ เช่น ติวานนท์-แคราย ,พหลโยธิน-เกษตร และ ศรีราชา
สำหรับอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ของกำไรปี 2558-2560 คาดว่าจะอยู่ที่ 108% โดยจะมีอัตราการเติบโตของกำไรในปี 2558 ที่ระดับ 289% ปี 2559 ที่ระดับ 68% และ ปี 2560 ที่ระดับ 38% จากยอดจองรอการรับรู้ (Backlog) สิ้นไตรมาส 2/58 ที่ระดับ 5,400 ล้านบาท
ดังนั้นจึงประเมินราคาเป้าเหมาะสมของหุ้น ORI ในปี 2558-2559 ไว้ที่ 12-12.55 บาท โดยอิงจาก PER ที่ 8.25 เท่า จาก Backlog ที่ยกมารับรู้รายได้ในครึ่งปีแรก 2558 และฐานการเติบโตที่ต่ำ ทำให้เห็นว่าโอกาสเติบโตของรายได้ในปี 2558-2560 จะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากกลยุทธ์การขยายตลาด บลูโอเชียน และเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ที่มีการแข่งขันไม่สูงมากและสร้างการเติบโตให้กับ ORI ระยะยาว