กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะประชาชนในจังหวัดภาคใต้เรียนรู้วิธีปฏิบัติตนเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาหมอกควัน โดยไม่ประกอบกิจกรรมที่เพิ่มปริมาณหมอกควันในอากาศ หลีกเลี่ยงการสูดดมฝุ่นละอองหมอกควันเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจโดยตรง ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูก ไม่ออกกำลังกายและทำงานที่ต้องออกแรงมากในบริเวณโล่งแจ้ง พร้อมปิดประตู หน้าต่างบ้านให้มิดชิด ป้องกันฝุ่นละอองหมอกควันเข้าไปในบ้านเรือน รวมถึงดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นพิเศษ รวมถึงไม่รองน้ำฝนมาอุปโภคบริโภค ตลอดจนเพิ่มความระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกควันปกคลุม เพื่อให้การดำเนินชีวิตในช่วงช่วงวิกฤตหมอกควันเป็นไปอย่างปลอดภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)กล่าวว่า ระยะนี้หลายจังหวัดในภาคใต้ตอนล่างประสบปัญหาวิกฤตหมอกควัน โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา ยะลา สตูล ปัตตานี และภูเก็ต มีปริมาณฝุ่นละอองสูงเกินค่ามาตรฐานและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งมีสาเหตุจากไฟป่าและการเผาพื้นที่เพื่อทำการเกษตรบริเวณเกาะสุมาตราและเกาะบอร์เนียวของประเทศอินโดนีเซีย เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขอแนะประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเรียนรู้วิธีป้องกันและลดผลกระทบจากปัญหาหมอกควัน โดยไม่ประกอบกิจกรรมที่เพิ่มปริมาณหมอกควันในอากาศ ไม่เผาขยะ ไม่จุดธูปเทียน ไม่สูบบุหรี่ รวมถึงลดการใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพื่อลดปริมาณละอองหมอกควันที่ลอยขึ้นสู่อากาศ หลีกเลี่ยงการสูดดมฝุ่นละอองหมอกควันเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจโดยตรง ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูก สวมแว่นตาทุกครั้ง เพื่อลดการระคายเคืองตา รวมทั้งปิดประตู หน้าต่างบ้านให้มิดชิด และนำผ้าชุบน้ำอุดตามช่องที่หมอกควันสามารถ
เข้าสู่บ้านเรือน หากไม่สามารถปิดหน้าต่างได้ ให้ใช้ผ้าชุดน้ำปิดเป็นม่านกั้นฝุ่น กรณีหมอกควันลอยเข้าไปในอาคารบ้านเรือน ให้เปิดพัดลมช่วยระบายฝุ่นละอองหมอกควันออกสู่ภายนอก หลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้ง โดยเฉพาะการออกกำลังกายหรือทำงานที่ต้องออกแรงมาก เพราะเมื่อร่างกายเหนื่อย จะหายใจเร็ว ส่งผลให้สูดดมฝุ่นละอองเข้าไปปริมาณมาก รวมถึงดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นพิเศษ ไม่ให้เข้าไปอยู่ในบริเวณที่มีฝุ่นละอองหมอกควัน หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ให้รีบพาไปพบแพทย์ เพราะจะมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป อีกทั้งไม่รองน้ำฝนมาอุปโภคบริโภค เนื่องจากน้ำฝนที่ตกลงมาในช่วงที่มีหมอกควันปกคลุมพื้นที่
จะปนเปื้อนฝุ่นละอองหรือควันพิษที่ลอยอยู่ในอากาศ ส่งผลให้เกิดอันตรายได้ ตลอดจนเพิ่มความระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกควันปกคลุม เปิดไฟหน้ารถหรือไฟตัดหมอก เพราะทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น ไม่ขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันอื่นให้มากกว่าปกติ ไม่แซงหรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหัน หากมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน ควรจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย รอจนกว่าหมอกควันเบาบาง ค่อยขับรถต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหมอกควันควรติดตามสถานการณ์และคุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำของภาครัฐโดยเคร่งครัด
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th