กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส
ผลการประชุมของคณะกรรมการกำกับดูแล (Supervisory Board) Dr. Ing. h.c. F. Porsche AG มีมติแต่งตั้ง Dr. Oliver Blume (อายุ 47 ปี) ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร รับหน้าที่นำทัพบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตชั้นนำ มีผลตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2015 เป็นต้นไป โดย Blume รับช่วงตำแหน่งดังกล่าวต่อจาก Matthias Müller (อายุ 62 ปี), ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการกำกับดูแล ขึ้นรับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารคนใหม่ของ Volkswagen AG ในฐานะบริษัทแม่ นับเป็นเวลากว่า 5 ปีหลังจาก Müller ยุติบทบาทของตนเองจาก Volkswagen และร่วมงานกับ Porsche AG ในตำแหน่ง CEO เมื่อต้นปี 2013 และ Blume เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้บริหารระดับสูงของ Porsche Executive รับหน้าที่ดูแลส่วนงานการผลิตและการขนส่ง นอกจากนี้ Detlev von Platen (อายุ 51 ปี) เป็นอีกท่านหนึ่งที่ได้รับการแต่งตั้ง เข้ารับตำแหน่งสมาชิกผู้บริหารระดับสูง โดยรับผิดชอบดูแลส่วนงานขายและการตลาด ทางด้านของ Von Platen ย้ายมาปฎิบัติงานที่ Zuffenhausen หลังจากประจำอยู่ในสหรัฐอเมริกานาน 7 ปี ในตำแหน่งผู้นำองค์กรของ Porsche Cars North America โดย Von Platen จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2015 แทนที่ Bernhard Maier (อายุ 55 ปี) ซึ่งย้ายจาก Zuffenhausen ไปยัง Mladá Boleslav ประเทศสาธารณรัฐเช็ก เพื่อร่วมงานกับ Skoda ในฐานะของประธานกรรมการบริหาร
ทางด้านของ Lutz Meschke (อายุ 49 ปี) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกผู้บริหารระดับสูงดูแลส่วนงานด้านการเงิน ได้รับการแต่งตั้งเข้ารับตำแหน่ง รองประธานกรรมการบริหาร แทนที่ Thomas Edig ซึ่งย้ายไปรับตำแหน่งสมาชิกบอร์ดบริหารดูแลส่วนงาน ทรัพยากรบุคคล ของ Volkswagen Commercial Vehicles เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลของ Porsche AG, Dr. Wolfgang Porsche กล่าวว่า "ทีมผู้บริหารและประธานกรรมการชุดใหม่ของเรา ได้รับการเลือกสรรจากบุคคลภายในองค์กรของเราเอง ปอร์เช่ไม่เพียงแค่เป็นองค์กรที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ปฎิบัติงาน แต่ยังเต็มไปด้วยด้วยบุคลากรระดับสูงที่ได้รับการคัดเลือกเป็นอย่างดีอีกด้วย" ทั้งนี้การแต่งตั้งบุคลากรภายในองค์กร แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมการทำงานของปอร์เช่อย่างชัดเจน
Dr. Porsche ได้กล่าวขอบคุณ ไปยัง Matthias Müller ประธานกรรมการบริหารที่พ้นตำแหน่งไปแล้ว จากการสร้างผลงานตลอด 5 ปีที่ผ่านมา "ภายใต้การบริหารงานของ Matthias Müller, ปอร์เช่ได้นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ" นั่นคือการมาถึงของ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) รถซูเปอร์คาร์ และ Compact SUV มาคันน์ (Macan) นี่คืออีกสิ่งหนึ่งที่ Dr. Porsche ประทับใจ "ตำนานแห่งชัยชนะที่เกิดขึ้นในการแข่งขัน Le Mans ด้วยรถยนต์ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) คือความน่าชื่นชมยินดีเป็นอย่างมาก" ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงระยะเวลาการดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของ Müller ตลอด 5 ปี บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตชั้นแนวหน้าแห่งนี้ สามารถสร้างปรากฎการณ์มากมายได้อย่างไม่เหลือเชื่อ "ยอดการจำหน่ายของรถยนต์ปอร์เช่ เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า รายรับและกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมากในตลอดหลายปีที่ผ่านมา" ทั้งหมดนี้คือคำขอบคุณของประธานคณะกรรมการกำกับดูแล และขอยอมรับว่าเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่งในวงการอุตสาหกรรมของประเทศเยอรมนี
Uwe Hück ประธานกลุ่มงานที่ปรึกษาของปอร์เช่ กล่าวว่า: "นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา Matthias Müller ได้ติดตั้ง 'เทอร์โบชาร์จ' ให้กับองค์กรของเราเป็นการสร้างแรงผลักดันในการพัฒนาให้เกิดขึ้นกับปอร์เช่ทำให้ Porsche DNA เกิดเป็นรูปเป็นร่าง แต่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่เราต้องเสียเขาไป ทางด้าน Oliver Blume ผู้ที่มารับหน้าที่แทน ก็ไม่ใช่ผู้บริหารมือใหม่แต่อย่างใด เขากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด และเป็นบุคคลที่ถือกำเนิดขึ้นมาในครอบครัวปอร์เช่ อย่างแท้จริง สิ่งที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่งในตัวของ Oliver คือความเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่าย ความใจกว้างของเขาก่อให้เกิดความเชื่อถือและแรงกระตุ้นในการสร้างสรรค์ผลงานต่อเพื่อนร่วมงาน เขาเป็นผู้ที่มีจิตใจดีและแน่นอนเขาเป็นสายเลือดของ ปอร์เช่ ผมคิดว่าการแต่งตั้งบุคลากรจากฝ่ายผลิตมาดำรงตำแหน่งระดับสูงในครั้งนี้ คือความคิดที่ถูกต้อง ผมแน่ใจว่า Oliver Blume คือบุคคลที่จะนำทางบริษัทให้ต่อยอดการพัฒนาตามที่เราทุกคนร่วมกันทำอยู่ดั่งเช่นเดียวกับ Matthias Müller และจะก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างไม่ต้องสงสัย หากเราต้องการความเชื่อมั่นในอนาคตของบริษัท เราจะต้องเดินตามแผนงานที่ได้วางไว้ อย่างต่อเนื่อง"
Oliver Blume เข้ารับตำแหน่งที่ Zuffenhausen ในช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่ง ทั้งนี้ปอร์เช่จะลงทุนในส่วนของโรงงานผลิตรถยนต์มูลค่ามากกว่า 1.1 พันล้านยูโร ในตลอดระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า อันได้แก่ โรงงานผลิตเครื่องยนต์และโรงงานผลิตตัวถังแห่งใหม่ ซึ่งมีแผนการก่อสร้างในพื้นที่เดียวกันกับที่โรงงานปัจจุบันตั้งอยู่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตที่โรงงานใน Zuffenhausen ให้มากขึ้น ในอนาคต นอกจากรถสปอร์ตรุ่น 911 และ บ็อกซเอตร์ (Boxster) โรงงานแห่งนี้จะเริ่มดำเนินการผลิตรถยนต์ปอร์เช่ เคย์แมน (Porsche Cayman) ในช่วงฤดูร้อนของปี 2016 ที่กำลังจะมาถึง ด้วยการดูแลของคณะกรรมการบริหารส่วนงานการผลิตและการขนส่ง ซึ่ง Blume ได้ทำหน้าที่ควบคุมมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังมีแผนการจัดตั้งโรงงานประกอบรถยนต์รุ่น 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) รวมทั้งเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานที่ไลพ์ซิก (Leipzig) สำหรับรถยนต์รุ่น มาคันน์ (Macan) และ พานาเมร่า (Panamera) นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Dr. Porsche กล่าวอย่างมั่นใจว่า "เราได้คัดเลือกบุคลากรที่ดีที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ เพื่อที่จะมารับตำแหน่งสำคัญต่อจาก Matthias Müller โดยการพิจารณาจากความเป็นมืออาชีพ และทักษะความสามารถในการบริหารทีมงานเป็นหลัก" โดยท้ายที่สุดแล้ว คณะกรรมการได้มีมติเลือก Blume ผู้ทำหน้าที่ควบคุมดูแลส่วนงานการผลิตให้เข้ามารับตำแหน่ง
Dr. Porsche ยังกล่าวขอบคุณไปยังอดีตสมาชิกผู้บริหารระดับสูง Bernhard Maier "ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา Maier ได้ทำหน้าที่บริหารด้วยความเป็นมืออาชีพในส่วนที่เกี่ยวกับการขายและสร้างความเติบโตอย่างเป็นระบบให้แก่องค์กรในระดับสากล เขาเริ่มงานในฐานะ CEO ของปอร์เช่ เยอรมนี จากนั้นในปี 2010 จึงได้รับมอบหมายให้มาดูแลส่วนงานขายและการตลาด โดยภายใต้การบริหารงานของเขา บริษัทสามารถสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และด้วยความมุ่งมั่นของเขาส่งผลให้ปอร์เช่ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในการจัดอันดับความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าให้แก่แบรนด์ได้อย่างยั่งยืน" Dr. Porsche ยังได้อธิบายเพิ่มเติมถึงการที่ Maier สามารถสร้างปรากฎการณ์ใหม่ในการเปิดตัวรถยนต์ปอร์เช่ รุ่น พานาเมร่า (Panamera) และ Compact SUV รุ่น มาคันน์ (Macan) เพื่อนำไปสู่การเพิ่มยอดจำหน่ายได้เป็นอย่างดี
ทางด้าน Detlev von Platen ผู้เข้ามารับหน้าที่ต่อจาก Maier นั้น นับได้ว่าเป็นโอกาสอันดี ที่จะใช้ประสบการณ์ของเขาในการสานต่อความสำเร็จ ด้วยประวัติการบริหารงานในประเทศสหรัฐอเมริกาของ von Platen ได้แก่ การเพิ่มยอดจำหน่ายได้เกือบ 2 เท่า สามารถส่งมอบรถใหม่ได้มากถึง 26,000 คัน เมื่อเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2008 อีกหนึ่งความสำเร็จของเขาในประเทศสหรัฐอเมริกา คือ การเปิดสำนักงานใหญ่ของปอร์เช่ประจำภูมิภาค ในอเมริกาเหนือที่เมืองแอตแลนตาโดยสำนักงานใหญ่ดังกล่าว ยังเป็นที่ตั้งของ Customer Experience Center ซึ่งมีสนามแข่งของตนเองรวมอยู่ด้วย
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยรางวัล Porsche Service Excellence Award จากการตรวจสอบคุณภาพประจำปี รวมถึงทีมวิศวกรที่ได้รับการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของปอร์เช่คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ" หรือ "AAS Looking after YOU and your CAR" เพื่อก้าวเข้าสู่คำว่า AAS The Name you can Trust ความไว้วางใจที่ให้คุณได้มากกว่า ตลอดระยะเวลาดำเนินการมา กว่า 20 ปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th
หมายเหตุ: ผู้สื่อข่าวสามารถดาวน์โหลดรูปภาพได้ที่ Porsche Press Database athttp://presse.porsche.de.
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ Porsche News room : newsroom.porsche.com