กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
'หา 3 สิ่งให้เจอแล้วลงมือทำ ไม่มีคำว่า ไม่สำเร็จ'อดีตผู้บริหารสถาบันการเงินดัง เผยเคล็ด(ไม่)ลับในงาน GREAT DAY
จิรชีพ เฮ้ง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ประเทศไทย บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญกับการที่จะได้เป็นผู้ร่วมธุรกิจเครือข่าย ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ภายใต้การบริหารงานของ "ยูนิลีเวอร์" บริษัทยักษ์ใหญ่แถวหน้าของเมืองไทย จัดงาน "GREAT DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้" ที่มีบุคคลต้นแบบถึง 5 คนที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์แห่งความสำเร็จ หนึ่งในนั้นคือ ณัชชา วิสุทธิโกศล Regional Executive Business Associate และผู้บริหารสโมสร 10 ล้าน อดีตผู้บริหารสถาบันการเงินที่เจอวิกฤตฟองสบู่แตก จึงลาออกมาทำบริษัทเอกชน และเคยเปิดธุรกิจหลากหลายประเภท แต่ไม่สามารถตอบโจทย์ความฝันของเธอได้จนมาเจอยูนิลีเวอร์ เน็คเวิร์ค หาเป้าหมาย หาโมเดล และหาแรงบันดาลใจของคุณให้เจอ เชื่อแล้วลงมือทำ ไม่มีไม่สำเร็จ ณ อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
ณัชชา วิสุทธิโกศล Regional Executive Business Associate เผยว่า "ที่บ้านเป็นครอบครัวคนจีน พ่อ-แม่ โล้สำเภามาจากเมืองจีน พูดภาษาไทยก็ไม่ได้ รับจ้างทำสวนผัก แถมมีลูกตั้ง 9 คน ต้องขยันเท่านั้นจึงจะอยู่รอด จากความขยันของพ่อกับแม่ทำให้เรามีสวนผักเป็นของตัวเองถึง 2 สวน แต่บ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวย อยากได้ อยากกินอะไรก็ไม่ได้อยากที่ต้องการ และเพราะครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย เราจึงฝันใหญ่ อยากมีบ้านหลังใหญ่ อยากกินอะไรต้องได้กิน อยากไปต้องได้ไป อยากแต่งตัวสวยๆ เพราะฉะนั้นเราต้องรวย และรวยเท่านั้น
ทำอย่างไรถึงจะรวย เห็นพี่สาวแต่งงานไปก็เป็นแม่บ้าน ไม่เห็นรวยเลย ฉะนั้นเราต้องเรียน จึงขอพ่อกับแม่เรียนหนังสือจนจบปริญญาตรีแล้วก็เริ่มทำงานประจำที่สถาบันการเงินแห่งหนึ่งให้ทำอะไรทำหมด วันหยุดก็ทำ เพราะงานที่เรารับผิดชอบเป็นการเปิดสาขาใหม่ ต้องเริ่มทุกอย่างด้วยตัวเอง ตั้งแต่ดูโลเคชั่น ทำเรื่องเปิดสาขา หาลูกค้ามาเปิดบัญชี ทำทุกอย่างเพื่อให้สาขาอยู่รอด และมีกำไร เสาร์-อาทิตย์ก็ทำ เครียดมาก จนในที่สุดสาขาก็อยู่ได้ ทำทั้งหมด 15 – 20 ปี และถูกปรับให้ย้ายสาขา ไกลกว่าเดิม แต่รายได้เท่าเดิม และต้องกลับไปเครียดเหมือนเดิม เริ่มรู้สึกว่า มันไม่ใช่แล้ว ระหว่างนั้นก็ไปสัมภาษณ์เป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลที่บริษัทเอกชน ซึ่งให้เงินเดือนมากกว่าเกือบเท่าตัว ได้เงินมากกว่า โอกาสรวยก็มากกว่า จึงตัดสินใจลาออกย้ายบริษัท แต่เมื่อทำได้ 2 ปีกว่าๆ เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้บริษัทจำเป็นต้องปรับลดพนักงาน เมื่อไม่สามารถปรับลดพนักงานได้อีกจึงต้องปรับเงินเดือนระดับผู้จัดการลง 30% ก็อดทน เมื่อบริษัทดีขึ้นเราจึงขอคืนเงินเดือนที่ถูกปรับลดลงไป แต่บริษัทกลับคืนมาให้แค่ 5% ก็อดทนทำต่อไปแบบไม่มีความสุขจนเรากลับมาคิด หรือเราควรจะลดขนาดความฝันของตัวเองลง แต่สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปกับตัวเองว่า อย่าลดขนาดความฝัน แต่จงเพิ่มขนาดของความพยายาม จึงเริ่มมองหางานเสริมทำเพิ่มตั้งแต่เปิดร้านทำผมทำได้ปีกว่าก็ขายให้เพื่อน เพราะเราทำผมไม่เป็น เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวกับเพื่อนได้ปีกว่าก็ยกให้เพื่อน เพราะคุมเรื่องเงินสดไม่ได้ ไปเรียนเบเกอรี่ลองทำขายพนักงานที่บริษัท แต่ก็เลิกเพราะได้กำไรน้อย กับงานประจำที่ทำอยู่ก็ไม่มีความสุข จึงตัดสินใจลาออกอีกครั้ง และมาเปิดธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งทอ ยิ่งทำมาก ยิ่งได้มาก เสาร์-อาทิตย์ก็ทำ ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัวเลย ช่วงแรกๆ สนุกกับการทำงานมาก แต่หลังๆ เริ่มเหนื่อย เครียดและมีคู่แข่งเยอะตัดราคากันเอง ทำให้ได้กำไรน้อยลงไม่คุ้มกับการลงทุนในเครื่องจักรประกอบกับเห็นน้องเขยสบายมีรถขับ ได้ไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ เริ่มถามเริ่มอยากทำ น้องเลยแนะนำให้รู้จักกับยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค แต่ตอนนั้นเราไม่เข้าใจก็เลยไม่สนใจ ยังคงทำและเครียดกับธุรกิจของเราต่อไป ในทางกลับกันน้องเขย ก็ยังมีความสุข ไม่เห็นจะทำอะไรเลย ทำไมมีเงิน ไม่เห็นเครียดเหมือนเราเลยถามใหม่ ลองใหม่ แต่เราก็ทำธุรกิจกับยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์คแบบที่เราอยากทำ ไม่เข้าฟัง ไม่อบรม ขายผลิตภัณฑ์อย่างเดียว บางเดือนก็ขายได้บางเดือนก็ขายไม่ได้ เลยคิดว่า ธุรกิจนี้คงไม่เหมาะกับเราก็เลยเลิก แต่ความฝันอยากรวยของเราก็ยังอยู่ น้องเขยก็ดู สุขสบายมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เห็นเครียดกับการทำงาน เลยขอลองใหม่อีกสักที เค้าบอกว่า ต้องเข้าอบรม เรียนรู้ การสร้างคน สร้างองค์กรให้เข้มแข็งแล้วมันก็จะยั่งยืน ตอนนี้เค้าแนะนำให้ทำอะไรก็จะทำหมด เพราะอยากรวย แล้วเราก็ทำได้จริงๆ ในเวลา 2 ปีก็สามารถแตะเงิน 6 หลักต่อเดือนได้ ไม่ต้องเครียด มีเวลาของตัวเองมากขึ้น จึงตัดสินใจยุติธุรกิจสิ่งทอลง และดึงสามีมาทำด้วยกัน ตอนที่ต้องเสียพ่อและแม่ไปในเวลาไล่เลี่ยกันก็มีเราเพียง คนเดียวที่ได้อยู่กับท่านในวาระสุดท้าย เพราะท่านมีห่วงจึงไม่ยอมไปง่ายๆ เราจึงได้ตัดสินใจบอกท่านว่า ให้ท่านไปให้สบาย ไม่ต้องห่วงพี่น้องทั้ง 9 คน จะไม่มีใครลำบาก เราจะเป็นคนดูแลครอบครัวเอง และเพราะทุกสิ่งที่เราได้จากยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ทำให้เรามั่นใจและกล้าสัญญากับพ่อและแม่ การทำธุรกิจกับยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ทำให้เราได้ทั้งความสวย ได้ท่องเที่ยวแบบวีไอพี ที่สำคัญได้เงิน ได้ทำความฝันของเราให้เป็นจริง ในที่สุดเราก็ได้เป็นผู้บริหารสโมสร 10 ล้าน
เคล็ด(ไม่)ลับความสำเร็จมีอยู่ 3 สิ่งที่ต้องหาให้เจอ คือ หาเป้าหมายให้เจอ ไม่มีเป้าหมายก็เหมือนไม่มีลมหายใจ เราต้องสร้างคุณค่าให้ตัวเราเอง ทำให้ตัวเราเองมีพลังอยากตื่นขึ้นมาทำให้สำเร็จ หาโมเดลของตัวเองให้เจอ เมื่อหาเจอแล้วโคลนนิ่งเค้ามา ทำซ้ำๆ กับคนใหม่ๆ ผู้นำต้องสำเร็จก่อนแล้วจะมีคนเดินตามเราเอง และ หาแรงบันดาลใจให้เจอ เพื่อเป็นสิ่งที่ผลักดันให้เราเดินไปข้างหน้าต่อได้ เราต้องเชื่อว่า เราทำได้ และลงมือทำ ไม่มีคำว่าไม่สำเร็จ"
ความสำเร็จแบ่งปันกันได้ สร้างแนวคิด และแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ของคนที่ทำสำเร็จ เพราะยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค เชื่อว่า "เราทำได้ คุณทำได้"