กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
ศูนย์บันดาลไทย เปิดตัวนิทรรศการที่สอง "สีไทยโทน" เสน่ห์ไทยเพิ่มมูลค่าธุรกิจ ฟื้นสีไทยต่อยอดธุรกิจ สร้างอัตลักษณ์งานออกแบบไทย ปักธงสร้างเทรนด์"อาเซียนโทน"ผ่านไทยโทนกว่าสองร้อยเฉดสี
วันนี้ (8 ตุลาคม 2558) กระทรวงวัฒนธรรม จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวนิทรรศการ "สีไทยโทน" เสน่ห์ไทยเพิ่มมูลค่าธุรกิจ ภายใต้โครงการศูนย์บันดาลไทยโดยมีนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานในการแถลงข่าว พร้อมด้วย ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และศิลปิน นักออกแบบเจ้าของงานวิจัยสีไทยโทน นายไพโรจน์ พิทยเมธีอาจารย์พิเศษคณะมัณฑนศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานที่มีพันธกิจโดยตรงในการนำมิติทางวัฒนธรรมมาเพิ่มคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และสังคม ส่งเสริมอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรม ได้จัดตั้ง "ศูนย์บันดาลไทย"(The Center of Thai Inspiration) เพื่อเป็นศูนย์กลางให้บริการและให้คำแนะนำปรึกษา เพื่อการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ บริหารจัดการเสน่ห์ทางวัฒนธรรม (ทุนทางวัฒนธรรม) และสร้างแรงบันดาลใจในการนำ "เสน่ห์ไทย" จากทุนวัฒนธรรมในถิ่นต่างๆ มาเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจส่งต่อคุณค่าใหม่ให้แก่สังคม ตลอดจนรวบรวมข้อมูลทุนวัฒนธรรมพื้นถิ่นจากทั่วประเทศ สังเคราะห์ผ่านกรณีศึกษา เพื่อให้เกิดรูปธรรมในการนำไปประยุกต์ใช้งานอย่างร่วมสมัยเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงวัฒนธรรม ที่จะก้าวไปสู่การเป็นกระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ
หลังจากเปิดศูนย์บันดาลไทย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2558 พร้อมนำร่องนิทรรศการแรก "ฝากไทย : ถอดรหัสเสน่ห์ของที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยว" (29 กรกฎาคม - 1 กันยายน 2558) กระทรวงวัฒนธรรม เดินหน้าจัดนิทรรศการที่สองเพื่อเขย่าแรงบันดาลไทยเรื่อง "สีไทยโทน" เสน่ห์ไทยเพิ่มมูลค่าธุรกิจ โดยการฟื้นคุณค่าสีไทยโทนผ่านกรณีศึกษาต่างๆ ในนิทรรศการนี้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างอัตลักษณ์งานออกแบบไทยเพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ ในอนาคต และอาจต่อยอดเป็นงานสร้างสรรค์ที่เสริมพลังให้กับประชาคมอาเซียน เพราะวัฒนธรรมเป็นหนึ่งใน สามเสาหลักของประชาคมอาเซียน
ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่จะมองประชาคมอาเซียนในมุมเศรษฐกิจ แต่ทุกวันนี้วัฒนธรรมมีส่วนสำคัญในสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจ จึงต้องมีหน่วยงานทำหน้าที่สังเคราะห์ทุนวัฒนธรรมซึ่งมีตั้งแต่อารยธรรมหลัก จนถึงวัฒนธรรมย่อยๆ ในพื้นที่ซึ่งมีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน องค์ความรู้เรื่องสีไทยเป็นมรดกของประเทศที่มีรากเหง้ามายาวนาน การรื้อฟื้นผ่านกรณีศึกษาต่างๆ ที่พัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ งานบริการ และสื่อโฆษณาต่างๆ ในนิทรรศการนี้ จะทำให้เรามองเห็นการต่อยอดได้จริง และยังเป็นการส่งต่อคุณค่าใหม่ให้กับสังคมอีกด้วย
ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการจัดงานว่า ชุดความรู้ในนิทรรศการนี้มีจุดเริ่มต้นจากการค้นคว้าวิจัยของอาจารย์โพโรจน์ พิทยเมธี (อาจารย์พิเศษคณะมัณฑนศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร) ที่ทำให้สังคมตระหนักถึงความเป็นมาของสีไทยที่มีรากเหง้ามานาน ปรุงด้วยวัสดุจากธรรมชาติ มีชื่อเรียกไพเราะ มีความหมาย และมีหลักฐานสืบค้นย้อนไปถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ในการวิจัยใช้อุปกรณ์ระบบดิจิตอลเพื่อเทียบสีงานจิตรกรรมไทยโบราณกับค่าสีปัจจุบันที่กำหนดด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งชุดความรู้ดังกล่าวทำให้เกิด 'เทรนด์ไทยโทน' ในรูปเฉดสีไทยมากกว่า 200 สี พร้อมชื่อสีและการกำหนดค่าสีที่สามารถนำไปใช้งานจริง ผลจากงานวิจัยยังพบว่าสีไทยโทนเป็นกลุ่มสีเดียวกับ 'อาเซียนโทน' ด้วยเหตุที่ชาติอุษาคเนย์ของเราต่าง สืบวัฒนธรรมสายเดียวกัน จึงเป็นไปได้ว่าจากไทยโทน ก็สามารถวิจัยเพิ่มเรื่องสีอาเซียนโทนเพื่อสร้างอัตลักษณ์และต่อยอดธุรกิจต่างๆ ของประชาคมนี้
นิทรรศการ "สีไทยโทน" เสน่ห์ไทยเพิ่มมูลค่าธุรกิจ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2558 ณ HOF ART Space ในโครงการ W District ระหว่างสุขุมวิท 69 - 71 ภายในนิทรรศการประกอบด้วยชุดความความรู้ในการฟื้นเสน่ห์ไทย เพื่อก้าวสู่โลกธุรกิจสมัยใหม่ การต่อยอดในงานศิลปะและการออกแบบร่วมสมัยด้วยสีทาต่างๆ สีเซรามิคสีย้อมไหมฯ การต่อยอดในธุรกิจบริการด้วย "ไทยโทนคาเฟ่" และการต่อยอดธุรกิจในผลิตภัณฑ์ส่งเสริมความเป็นไทยด้วย "ไทยโทนไลฟ์สไตล์ช็อป" และเสวนาและเวิร์คช็อปความรู้ "เสน่ห์สีไทยโทน" ระหว่างวันที่ 16 – 18 ตุลาคม 2558 นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการหมุนเวียนในศูนย์บันดาลไทย หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป
ผู้เข้าร่วมเสวนา/เวิร์คช็อปจะได้รับหนังสือ"สีไทยโทน"เสน่ห์ไทยเพิ่มมูลค่าธุรกิจ ที่รวบรวมองค์ความรู้ สีไทย การปรุงสี และวัสดุปรุงสีไทย พร้อมเฉดสีไทยโทนกว่า 200 สี ที่ระบุรหัสค่าสีที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง
ลงทะเบียนเพื่อสำรองที่นั่ง และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 092 965 6366 และ 085 116 0092 และ bundanthai@gmail.com เช้าชมรายละเอียดได้ใน www.bundanthai.com สถาบันการศึกษาที่ประสงค์เข้าชมนิทรรศการเป็นหมู่คณะ 10 คนขึ้นไป โปรดประสานงานล่วงหน้า เพื่อแจ้งวิทยากร (อ.ไพโรจน์ พิทยเมธี) มาให้ความรู้ในการชมงาน