กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--M.O.Chic
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดพิธีมอบประกาศเกียรติคุณรางวัลสุดยอดผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่นประจำปี ๒๕๕๘ จาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน ระบุนโยบายส่งเสริมการส่งออก ๒๕๕๙ เน้นส่งเสริมผู้ประกอบการส่งออกติดอาวุธทางการค้า พัฒนาศักยภาพการส่งออกไทยในตลาดโลก
วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๘ ณ ห้องบอลรูม ชั้น ๒ โซน เอ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดพิธีมอบประกาศเกียรติคุณ และมอบรางวัลสุดยอดผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่นประจำปี ๒๕๕๘ (PRIME MINISTER'S EXPORT AWARD 2015 : PM AWARD 2015) โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธีและเป็นผู้มอบรางวัลอันทรงเกียรติดังกล่าว ซึ่งในปีนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้คัดเลือกสุดยอดผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกเข้ารับรางวัลสูงสุดที่รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้มอบให้แก่ผู้ประกอบการส่งออกไทย จำนวน ๓๒ รางวัล เพื่อเป็นการรับประกันคุณภาพมาตรฐานขั้นสูงให้กับสินค้าและบริการไทย ที่มีความพร้อมในการก้าวสู่การเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก และเป็นแนวทางหนึ่งในการกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งให้ภาคการส่งออกของไทยตามนโยบายของรัฐบาล
ตามที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มีแนวนโยบายการดำเนินงานที่มุ่งเน้นการขยายตลาดการค้าของไทยในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยได้ดำเนินการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการส่งออกไทย ปกป้องประโยชน์ทางการค้า ตลอดจนเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการไทยในต่างประเทศ เพื่อหวังผลให้ภาคการส่งออกไทยขยายตัวตามเป้าหมาย ผู้ประกอบการส่งออกไทยมีศักยภาพด้านการแข่งขันเพิ่มขึ้น รวมทั้งสินค้าและบริการของไทยมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก
ทั้งนี้ในปี ๒๕๕๙ กรมฯ ได้กำหนดแนวทางสำคัญโดยเร่งดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในการผลักดันการขยายตัวภาคการส่งออก ด้วยการขยายการค้าและการลงทุนกับพันธมิตรในอาเซียนภายใต้ AEC และส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงทางการค้า FTA เนื่องจากตลาดโลกในแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน จึงมีการเร่งผลักดันการเจรจาการค้าระหว่างประเทศในตลาดใหม่เพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และตะวันออกกลางในระดับพหุภาคีและทวิภาคี รวมทั้งเจรจาการแก้ไขปัญหาทางการค้าในกรอบความร่วมมือต่างๆ ด้วย
นอกจากนี้ยังได้เร่งส่งเสริมการเป็น Trading Nation และพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้สามารถดำเนินธุรกิจในต่างประเทศได้ โดยพัฒนาองค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศให้กับ SMEs เป็นการติดอาวุธให้ผู้ประกอบการส่งออกมีศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยมุ่งไปที่การประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ สถาบันการศึกษา สถาบันวิจัยทั้งในและต่างประเทศ ใช้การต่อยอดงานวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมเพื่อนำไปสู่การสร้างมูลค่าทางการค้าแก่สินค้าและบริการไทย อีกทั้งยังมีแผนในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากสื่อดิจิตอลและรูปแบบการค้าสมัยใหม่อื่นๆ เพื่อยกระดับประเทศเข้าสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่า (Value Creation Economy) รวมทั้งพัฒนาและส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างแบรนด์สินค้าและบริการของไทยเพื่อรองรับแนวโน้มความต้องการใหม่ๆ ของตลาดโลก และที่สำคัญคือ การสร้างภาพลักษณ์แก่ประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตและส่งออกสินค้าและบริการที่มีคุณภาพมาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือในตลาดโลก
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้ประกอบการส่งออกไทย และพร้อมเป็นตัวกลางในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการมีการพัฒนาและเพิ่มมูลค่าทั้งสินค้าและบริการ รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพราะต่อไปนี้ เราจะต้องมองการค้ายุคใหม่ ทั้ง Trade in Goods, Trade in Services, In – Outward Investment อย่างบูรณาการ โดยหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือ การสร้างภาพลักษณ์แก่ประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตและส่งออกสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ (Country and Industry Image) ผ่านหนึ่งโครงการที่สำคัญ นั่นคือ โครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น (PRIME MINISTER'S EXPORT AWARD : PM AWARD) นั่นเอง
สำหรับรายละเอียดของโครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น (PRIME MINISTER'S EXPORT AWARD : PM AWARD) ได้ริเริ่มและดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนและให้ความสำคัญแก่ผู้ส่งออกสินค้าและบริการที่มีผลงานดีเด่น มีการริเริ่มและพยายามบุกเบิกตลาดต่างประเทศภายใต้ชื่อทางการค้าของตนเอง และมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ของตนเองจนเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก รวมทั้งสนับสนุนการสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ดีให้แก่ผู้ประกอบการที่มีส่วนผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการของประเทศ (รายละเอียดโครงการฯ เพิ่มเติมตามเอกสารแนบ) โดยมีบริษัทที่ได้รับคัดเลือกให้เข้ารับรางวัลอันทรงเกียรติตลอดระยะเวลา ๒๓ ปีที่ผ่านมา (ถึงปี ๒๕๕๗) รวม ๔๓๕ บริษัท
สำหรับโครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่นประจำปี ๒๕๕๘ (PRIME MINISTER'S EXPORT AWARD 2015 : PM AWARD 2015) ในปีนี้ ทางกรมฯ ได้แบ่งรางวัลออกเป็น ๖ ประเภทรางวัล ประกอบด้วย ๑) รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter) ๒) รางวัลสินค้านวัตกรรมที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม (Best Green Innovation) ๓) รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) ๔) รางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design) ๕) รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award) และ ๖) รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีการส่งออกและคุณภาพยอดเยี่ยม (Best OTOP Export Recognition) ซึ่งในปีนี้มีผู้ประกอบการส่งออกให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า ๑๐๐ บริษัท โดยคณะกรรมการและอนุกรรมการคัดเลือกได้พิจารณาคุณสมบัติของผู้ประกอบการแต่ละรายตามหลักเกณฑ์อย่างเข้มงวด รวมทั้งมีการตั้งมาตรฐานไว้ในระดับเทียบเท่ามาตรฐานสากล ซึ่งได้คัดเลือกผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลประกอบธุรกิจดีเด่นประจำปี ๒๕๕๘ ได้รวมทั้งสิ้น ๓๐ บริษัท ๓๒ รางวัล (รายชื่อบริษัทที่ได้รับรางวัล PM Award 2015 ตามเอกสารแนบ) จึงเป็นการการันตีได้ว่าผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล PM AWARD 2015 ทั้งหมดในปีนี้ เป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าและบริการไทยที่มีคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล สามารถที่จะก้าวสู่การเป็นที่ยอมรับในตลาดโลกในอนาคตได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ภายหลังพิธีมอบประกาศเกียรติคุณ และมอบรางวัลเสร็จสิ้นแล้ว สถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จะมีการจัดทำหนังสือ 'PM Award's Directory 2015' ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมรายชื่อและรายละเอียดของผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่นที่ได้รับรางวัลประจำปี ๒๕๕๘ เพื่อใช้ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกไทยในการเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศต่อไป สามารถดูรายละเอียดทั้งหมดของโครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น (PRIME MINISTER'S EXPORT AWARD : PM AWARD) ได้ที่ www.pm-award.com