กรุงเทพ--6 ก.พ.--สำนักงานเขตกรุงเทพ
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 41 เวลา 09.00 น. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ ประกอบด้วย นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีฯ ผู้ว่าการรถไฟฯ ผู้อำนวยการการท่าเรือฯ รองอธิบดีกรมทางหลวง กรมเจ้าท่า และกรมการขนส่งทางบก ได้เดินทางมาร่วมประชุมกับคณะของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อให้การสนับสนุนกรุงเทพมหานครด้านการแก้ปัญหาและเพิ่มขีดความสามารถในการอำนวยบริการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานในหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมให้เป็นของขวัญแก่คนกรุงเทพฯ
ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้เป็นการติดตามผลที่กทม.ได้ขอการสนับสนุนและความร่วมมือจากกระทรวงคมนาคม 8 เรื่อง เมื่อครั้งที่มีการประชุมหารือร่วมกัน เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2541 ณ กระทรวงคมนาคม ได้แก่
1. กทม. ขอนุญาตเข้าไปดูแลและปลูกต้นไม้ริมถนนของกรมทางหลวง เช่น ถ.พหลโยธิน และ ถ.วิภาวิดีรังสิต
2. การสร้างทางขนานถนนวิภาวดีรังสิต (โครงการโฮปเวลล์)
3. โครงการรถไฟชุมชน ระบบขนส่งมวลชนจากชานเมือง
4. การขอใช้ที่ดินของการรถไฟ ย่านพหลโยธินเพื่อทำเป็นที่จอดรถยนต์ เนื่องจากกทม.จะพัฒนาตลาดนัดจตุจักรให้เป็นตลาดไนท์พลาซ่า
5. เรื่องขอเช่าที่ของการรถไฟเพื่อจัดสร้างพิพิธภัณฑ์เด็ก ในพื้นที่ 5 ไร่ ที่ติดกับสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
6. การขอเช่าที่ดินของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อจัดสร้างสถานีขนถ่ายขยะและโรงบำบัดน้ำเสีย
7. การแก้ปัญหามลพิษและป้องกันอุบัติภัยจากการเดินเรือในคลองร่วมกับกรมเจ้าท่า ซึ่งทางกทม.รับจะดูแลในส่วนที่มีผลกระทบกับประชาชนและเรื่องมลพิษ
8. ไมโครบัส ทั้งนี้ทั้ง 2 ฝ่าย ระหว่างกทม.กับกระทรวงคมนาคม ได้ตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อพิจารณาหาข้อสรุป ใน 8 ประเด็น ให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน
นายถิรชัย วุฒิธรรม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สรุปภายหลังการประชุมว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้แนวทางในการทำงานร่วมกันระหว่างทั้งสองหน่วยงานว่า กระทรวงคมนาคมมีความตั้งใจจะร่วมปรึกษาหารือเพื่อสนับสนุนการทำงานของกทม.ในทุกด้านให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และหลังจากการหารือกันครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม ศกนี้แล้วก็ได้สั่งการให้หน่วยงานในกระทรวงเตรียมพร้อมเพื่อประสานกับกทม. ทันที โดยดำเนินงานอย่างจริงจังให้เกิดผลสำเร็จให้จงได้ หากคณะทำงานมีข้อขัดข้องหรือปัญหาอุปสรรคให้รีบแจ้งเพื่อหาทางแก้ไขในทันที โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาการจราจร ไม่ว่าจะเป็นโครงการถนนสายรอง (Local Road) ในแนวของโฮปเวลล์เดิม ทางลอยฟ้าถนนบรมราชชนนี หรือถนนวงแหวนรอบกรุงเทพฯ ในส่วนที่ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อบรรจบให้ครบวงรอบ หากสองฝ่ายสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างจริงจัง จะสามารถแก้ปัญหาที่คั่งค้างอยู่ได้อย่างแน่นอน
การหารือร่วมกันวันนี้ ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาให้แก่คนกรุงเทพฯ ได้สรุปดังนี้
ประเด็นที่ 1 กรมทางหลวงพร้อมที่จะให้กรุงเทพมหานครเข้าไปร่วมดูแลความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการปลูกแต่งต้นไม้ให้ร่มรื่น สวยงาม ในถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงในเขตกรุงเทพมหานครทุกสาย โดยจะให้สำนักงานเขต และแขวงการทางฯ พื้นที่ ได้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเสมือนเป็นหน่วยเดียวกัน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้กำชับให้เร่งดำเนินการในถนนสายสำคัญ ๆ เช่น ถนนวิภาวดีรังสิต เป็นต้น เพื่อให้สวยงามโดยเร็ว เพราะเป็นเส้นทางที่เชิดหน้าชูตาของประเทศในโอกาสปีการท่องเที่ยวไทย และการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ในปลายปีนี้
ประเด็นที่ 2 การรถไฟฯ กรมทางหลวง และกรุงเทพมหานคร จะร่วมกันเร่งรัดการก่อสร้างถนนสายรอง (Local Road) ตามแนวเส้นทางรถไฟเพื่อเพิ่มโครงข่ายถนน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า ควรก่อสร้างถนนสายรองที่มีลักษณะเป็นเส้นทางสายตรงต่อเนื่องมากกว่าการทำเป็นช่วงสั้น ๆ เพราะจะเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ชัดเจนว่า โดยการก่อสร้างถนนนี้ต้องคำนึงถึงระบบระบายน้ำเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมเป็นสำคัญด้วย ซึ่งทั้งสองฝ่ายรับจะไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ร่วมกันผลักดันโครงการให้บังเกิดผลโดยเร็วอีกด้วย
ประเด็นที่ 3 การรถไฟฯ จะหารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร ในการทำโครงกร "รถไฟชุมชน" เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งมวลชนด้านนี้ โดยจะพิจารณาให้มีจุดเชื่อมกับระบบการจราจรอื่น ๆ
ประเด็นที่ 4 การรถไฟ กับกทม.จะหารือเรื่องการลงทุนร่วมกัน เพื่อสร้างที่จอดรถยนต์ขนาดใหญ่รองรับรถยนต์ได้กว่า 2,000 คัน ในที่ดินย่านพหลโยธินใกล้ตลาดนัดจตุจักร
ประเด็นที่ 5 การรถไฟ จะร่วมกับกทม.ในการเร่งรัดให้มีการก่อสร้าง "พิพิธภัณฑ์เด็ก" ในพื้นที่ของสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์โดยเร็ว--จบ--