กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมระบบการผลิตและจำหน่ายนมโรงเรียน ณ จังหวัดสระบุรี และนครราชสีมา ว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญกับการติดตามการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับนมโรงเรียนทั้งระบบนั้น กระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้ องค์การส่งเสริมกิจการโคนม (อ.ส.ค.) เร่งดำเนินการตรวจสอบคุณภาพการผลิตนมโรงเรียนในทุกพื้นที่ ตั้งแต่การรับน้ำนมดิบก่อนเข้าถึงโรงงาน ขั้นตอนการผลิต จนถึงขั้นตอนการขนส่ง รวมไปถึงปลายทางในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้เป็นนมโรงเรียนที่มีคุณภาพ และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ปกครองด้วย
นายธีรภัทร กล่าวต่อไปว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบที่ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบของสหกรณ์โคนมมวกเหล็ก เพื่อตรวจเยี่ยมกิจการและระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำนมดิบของศูน์ฯ ที่รับซื้อจากเกษตรกรสมาชิก และการตรวจสอบโรงงานแปรรูปนมพาสเจอร์ไรส์ และ ยู.เอส.ที. ของสหกรณ์โคนมมวกเหล็ก และโรงงานแปรรูปนมพาสเจอร์ไรส์ และ ยู.เอส.ที. ของบริษัท คันทรีเฟรซแดรี่ จำกัด เพื่อตรวจเยี่ยมกิจการ และระบบคุณภาพในกระบวนการผลิตนมโรงเรียนนั้น ถือว่ามีความพึงพอใจ เนื่องจากโรงงานมีการดำเนินงานถูกต้องตามขั้นตอน จึงค่อนข้างมีประสิทธิภาพ และทำให้นมโรงเรียนมีคุณภาพ ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด โดยจะยึดเป็นมาตรฐานในการสุ่มตรวจโรงงานแห่งอื่นๆ ต่อไป ซึ่งได้มอบหมายให้ อ.ส.ค. ประสานกับกรมปศุสัตว์ และ อย. ในการสุ่มตรวจโรงงานแปรรูปแห่งอื่น ๆ ซึ่งการลงไปตรวจสอบนั้นจะเป็นการสุ่มตรวจโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า หากพบโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐานก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอน และมีบทลงโทษต่อไป
นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้มีการประเมินด้วยว่า นมโรงเรียนนั้นมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน โดยจะมีการวัดจากพัฒนาของเด็กทั้งในเรื่องของการเจริญเติบโตและทางด้านสติปัญญา เป็นต้น ทั้งนี้ จำนวนเด็กนักเรียนที่อยู่ในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน มีทั้งสิ้นจำนวน 7,668,487 คน ซึ่งเด็กนักเรียนต้องดื่มนมวันละ 200 มล./คน ดังนั้น ต้องใช้ปริมาณน้ำนมวันละ 1,564.99 ตัน