กรุงเทพฯ--13 ต.ค.--เมืองไทยประกันชีวิต
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ผู้บริโภคมักจะมองหาช่องทางการออมเงินเพื่อวางแผนสิทธิประโยชน์ด้านภาษี ซึ่งประกันชีวิตนับเป็นหนึ่งทางเลือกสำคัญที่สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ควบคู่ไปกับผลประโยชน์ด้านความคุ้มครองชีวิตให้แก่ผู้เอาประกัน อันเป็นจุดเด่นที่แตกต่างอย่างชัดเจนจากการออมหรือลงทุนในประเภทอื่นๆ ขณะเดียวกันยังสามารถเลือกซื้อสัญญาเพิ่มเติมด้านสุขภาพ โรคร้ายแรง และอุบัติเหตุ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
ล่าสุด เมืองไทยประกันชีวิต จึงได้จัดแคมเปญพิเศษ "MTL Smile Choices" เพื่อนำเสนอทางเลือกแบบประกันชีวิตให้แก่ผู้บริโภคได้สะดวกและเข้าใจง่าย โดยจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละเซ็กเมนต์ได้อย่างตรงใจ ประกอบด้วย
กลุ่มแรก เป็นกลุ่มที่เพิ่งเริ่มซื้อประกันชีวิตโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงานรุ่นใหม่ มักมองหาแบบประกันชีวิตที่เบี้ยไม่แพง แบบประกันที่เหมาะสม เช่น โครงการเมืองไทย ซุปเปอร์ เซฟเวอร์ 25/16 คุ้มครองยาวถึง 25 ปี แต่ชำระเบี้ยเพียง 16 ปี และแบบประกันเมืองไทย คุ้มครองตลอดชีพ 99/20 ที่คุ้มครองชีวิตจนถึงอายุ 99 ปี ชำระเบี้ยเพียง 20 ปี เป็นต้น
กลุ่มที่สอง มองเป้าหมายการซื้อประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษีเป็นโจทย์หลัก พร้อมกับมองหาสิทธิประโยชน์อื่นๆ พ่วงท้ายอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะความคุ้มครองที่รอบด้านยิ่งขึ้น ผ่านการเลือกซื้อสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ โรคร้ายแรง และอุบัติเหตุ แบบประกันที่เหมาะสม เช่น โครงการเมืองไทย รับทรัพย์ ตลอดชีพ 90/7 โครงการเมืองไทย เซฟแอนด์เซฟ โครงการเมืองไทย อัลตร้า เฮลท์ และโครงการเมืองไทย HIGH SPEED 4G, 4G+ และ 4G++ เป็นต้น
กลุ่มที่สาม กลุ่มนี้จะเน้นในเรื่องของการลงทุนเป็นหลัก มีความเป็นมืออาชีพและสามารถแสวงหาช่องทางการออมเงินและผลประโยชน์จากการลงทุนได้หลากหลาย ดังนั้น แบบประกันชีวิตที่เหมาะสมกับกลุ่มนี้ นอกจากจะให้สิทธิประโยชน์ด้านลดหย่อนภาษีแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตอบโจทย์ในแง่ผลตอบแทนการออมที่คุ้มค่า เช่น เมืองไทย สมาร์ท เซฟวิ่ง 10/1 เมืองไทย สมาร์ท เซฟวิ่ง 10/6 และเมืองไทย ซุปเปอร์ กู๊ด 12/5 เป็นต้น
กลุ่มสุดท้าย เป็นกลุ่มที่มองการณ์ไกลและเตรียมปูทางสำหรับชีวิตในอนาคต กลุ่มนี้มักจะซื้อประกันชีวิตจนเต็มเพดานหักลดหย่อนภาษีของเบี้ยประกันชีวิตใน 100,000 บาทแรกไปแล้ว จึงเริ่มมองหาช่องทางใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuity) สามารถตอบโจทย์นี้ได้ด้วยสิทธิประโยชน์ด้านลดหย่อนภาษีที่เพิ่มขึ้น เช่น เมืองไทย 8555 และ เมืองไทย 9955 โดยชำระเบี้ยจนถึงอายุ 54 ปี และเมื่ออายุครบ 55 ปี จะเริ่มรับผลประโยชน์เป็นเงินบำนาญทุกปี ไปจนถึงอายุ 85 ปี หรือ 99 ปี (ตามแบบประกันชีวิตที่เลือก) และแบบเมืองไทย 8560 จี 15 ชำระเบี้ยจนถึงอายุ 59 ปี จากนั้นเมื่ออายุครบ 60 ปี จะได้รับผลประโยชน์บำนาญทุกปี จนถึงอายุ 85 ปี โดยรับรองจ่ายบำนาญ 15 ปี* เป็นต้น (* เงื่อนไขเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์)
นายสาระ กล่าวอีกว่า โอกาสนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดผลิตภัณฑ์ใหม่ "โครงการเมืองไทย HIGH SPEED 4G" ที่ ตอบโจทย์ความคุ้มครองได้อย่างครอบคลุม โดยให้คุ้มครองชีวิตจนถึงอายุ 99 ปี สูงสุดถึง 500,000 บาท** ทั้งยังคลายกังวลเรื่องสุขภาพ ด้วยผลประโยชน์ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน สูงสุดถึงวันละ 5,000 บาท** หายห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายโรคร้าย ครอบคลุมถึง 30 โรค และอุ่นใจยิ่งขึ้นด้วยความคุ้มครองอุบัติเหตุ ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ ทั่วโลก รับประกันตั้งแต่อายุ 18-64 ปี (**สำหรับความคุ้มครอง แพ็กเกจ 4G++)
พิเศษยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าที่ซื้อแบบประกันชีวิตที่ร่วมโครงการ "MTL Smile Choices" ในระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม -15 ธันวาคม 2558 ผ่านช่องทางตัวแทนและทางโทรศัพท์ จะได้รับของกำนัล พร้อมลุ้นรับรางวัลพิเศษต่างๆ ตลอดทั้งโครงการรวม 100 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 500,000 บาท (เงื่อนไขและรายละเอียดกิจกรรมเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
"แคมเปญนี้เป็นอีกหนึ่งผลลัพธ์ของนโยบาย "ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง" ที่บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาทางเลือกแบบ ประกันชีวิตให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง จึงมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าที่มองหาแบบประกันชีวิตเพื่อตอบโจทย์ความต้องการต่างๆ ในปลายปีนี้" นายสาระ กล่าว
หมายเหตุ
-การพิจารณารับประกันเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
-เงื่อนไขและข้อยกเว้นเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์