กรุงเทพฯ--13 ต.ค.--เวิรฟ
ซัมซุง บิสิเนสร่วมกับ Rakuten Tarad.com, ThaiFranchiseCenter.com และ Thaiware.com จัดสัมมนา "กลยุทธ์เพิ่มเม็ดเงินแบบติดปีกด้วยเทคโนโลยี" ชวนนักธุรกิจรายย่อยร่วมรับฟังความรู้ดีๆ ที่ช่วยผลักดันความสำเร็จในการทำธุรกิจในยุคออนไลน์จากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา รวมทั้งผู้ประกอบการที่ล้วนประสบความสำเร็จตบเท้าร่วมแบ่งปันเคล็ดลับความสำเร็จท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในยุคดิจิตอล
นายมณฑล มังกรกาญจน์ ผู้อำนวยการธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า "ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากพฤติกรรมในการจับจ่ายของผู้บริโภคยุคนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีการหาข้อมูลและซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยจากผลวิจัยพบว่าผู้บริโภคที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตในการหาข้อมูลและอ่านรีวิวสินค้าก่อนซื้อ จะมียอดการใช้จ่ายในการซื้อสินค้าในร้านเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่ารวมถึง 82% และจำนวนนักช็อปถึง 61% ยินดีซื้อของบนเว็บไซต์ นอกจากนี้ผลการวิจัยยังบ่งชี้อีกว่าผู้บริโภค 80% รู้สึกถูกโน้มน้าวและกระตุ้นให้ซื้อได้มากขึ้นจากภาพและการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่สวยงามและสะดุดตา และอีก 59% เชื่อว่าระบบการแนะนำสินค้าเฉพาะบุคคลที่ประมวลผลมาจากประวัติการซื้อก่อนหน้า มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าเหล่านั้น ซึ่งซัมซุงมองว่าเทคโนโลยีต่างๆ สามารถเข้ามามีบทบาทในทุกขั้นตอนของการซื้อสินค้าของผู้บริโภค ทั้งช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มโอกาสในการขายสินค้า และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งซัมซุงมุ่งมั่นศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจในความต้องการของแต่ละกลุ่มธุรกิจ คิดค้นผลิตภัณฑ์พร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบที่ตอบสนองทุกความท้าทายใหม่ๆ ของทุกธุรกิจอีกด้วย"
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการบริหารผู้ก่อตั้ง Tarad.com และ Efrastructure Group กล่าวว่า "ปัจจุบันนี้มีผู้ทำธุรกิจรายย่อยเข้ามาสู่ตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการทำธุรกิจออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แนวโน้มของธุรกิจ E-Commerce ในประเทศไทยในปี 2557 บริษัทและร้านค้าต่างๆ รวมถึงผู้ค้าออนไลน์จากต่างประเทศในระดับภูมิภาคก็จะยังคงทยอยเริ่มเข้ามาเปิดทำการค้าทางออนไลน์กันมากขึ้น ซึ่งในเวลาอันสั้นจะเกิดการแข่งขันที่รุนแรงหรือเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ของธุรกิจประเภทนี้ (E-Commerce Bubble) ผู้ประกอบการจึงต้องสรรหากลยุทธ์ทางการตลาดและโปรโมชั่นเพื่อสร้างความแตกต่าง นอกจากนี้การแข่งขันด้านการบริหารสินค้าและจัดส่งก็จะมากขึ้น ซึ่งการส่งของพร้อมการเก็บเงินปลายทางเป็นที่นิยมใช้มากขึ้น เพราะเป็นวิธีที่ผู้รับบริการสะดวกใช้และชอบมากที่สุด หากผู้ประกอบการมุ่งหวังที่จะประสบผลสำเร็จในธุรกิจ จำเป็นจะต้องมีสูตรลับที่เรียกว่า A-L-A-R-M ซึ่ง A - Analysis Market วิเคราะห์ตลาด ว่าตลาดในภาพรวมนั้นเป็นอย่างไร L - Listening Insight ฟังเสียงผู้บริโภคบน Social Media เพื่อหาความต้องการที่แท้จริง A - Action วิธีปฎิบัติให้ประสบความสำเร็จตามที่วางแผนไว้ R - Real-time Trends ต้องอยู่ในกระแส ไม่ล้าสมัย M - Measurement การประเมินผลที่ถูกต้อง สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกิจกรรม"
"ปัจจุบันที่เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของสมาร์ทโฟน การใช้สมาร์ทโฟนในการทำกิจกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แบรนด์หรือผู้ประกอบการต้องปรับตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเชื่อมโยง "ประสบการณ์ของผู้บริโภค" จากทั้งหน้าร้านจริง หน้าเว็บไซต์ บนหน้าจอสมาร์ทโฟน (Mobile Site) และแอพพลิเคชั่น (Application) เพื่อที่จะดึงดูดและอำนวยความสะดวกสูงสุดให้กับลูกค้า ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องใช้ Omni- Channel หรือการเชื่อมโยงประสบการณ์ในแต่ละช่องทาง ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ให้เชื่อมต่อกันแบบไร้รอยต่อ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างรวดเร็วทันใจ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกับชีวิตส่วนตัวได้แล้ว ในเชิงธุรกิจการเชื่อมโยงกันแบบ ไร้รอยต่อด้วยเทคโนโลยีสมาร์ทดีไวซ์ทำให้สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้ทันทุกความต้องการ ทุกที่ ทุกเวลา"
นายชัยยุทธ วชิรโรจน์ไพศาล ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com กล่าวว่า "เนื่องจาก ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่ง่ายที่สุดในการเริ่มต้นเป็นเจ้าของกิจการของผู้ประกอบการ SME ในประเทศไทย ปัจจุบันมีจึงมีผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์กว่า 90,000 ราย เกิดใหม่วันละ 20 แห่ง และคาดว่าจะมีจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์เพิ่มเป็น 850 บริษัท และตลาดแฟรนไชส์จะมีมูลค่าประมาณ 200,000 ล้านบาท ในปี 2560 ซึ่งหากต้องการประสบความสำเร็จในธุรกิจแฟรนไชส์ กลยุทธ์ความสำเร็จไม่ได้มีแค่การมีหน้าร้านของธุรกิจแฟรนไชส์ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยกับลูกค้า Point of Purchase Media หรือ สื่อหน้าร้านยุคใหม่ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า จุดสัมผัสของลูกค้า (Contact Point with Customer) ที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายและทำกำไรให้กับธุรกิจแฟรนไชส์ได้เท่านั้น แต่ผู้ประกอบการยังต้องหันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเพื่อทำการตลาด อาทิ การใช้โซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคมากกว่าที่เคย เพราะโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัวให้ทันสถานการณ์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้โซเชียลมีเดียทุกที่ ทุกเวลา หากผู้ประกอบการสามารถเติมเต็มและเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม เชื่อว่าเจ้าของแฟรนไชส์จะสามารถสร้างยอดขายมหาศาลได้อย่างแน่นอน"
นายรภัสสิทธิ์ เรืองรุ่งธนสาร ผู้จัดการทั่วไปจาก Thaiware.com กล่าวว่า "การนำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญต่อธุรกิจ SME อย่างเห็นได้ชัด ไม่เฉพาะการพัฒนาของดีไวซ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต แต่ในด้านซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชันต่างๆ ก็พัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากการที่องค์กรธุรกิจใหญ่ๆ เริ่มให้ความสำคัญกับการนำข้อมูลของลูกค้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ธุรกิจของตนเอง (Big Data) ผู้ประกอบการ SME ก็ต้องพยายามปรับตัวเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้มากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากการเลือกใช้ซอฟต์แวร์ให้ถูกต้องตามความต้องการของธุรกิจจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของ SME ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็น ด้านการวางแผนผลิต การบริหารสินค้าคงคลัง การบริหารงานบุคคล การบริหารการเงินและการบัญชี หรือการบริหารการขายและการตลาด ต่อไปหากผู้ประกอบการ SME ยังมุ่งเน้นแต่การขายสินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ เพราะประสบการณ์ของลูกค้าตั้งแต่เริ่มรู้จักสินค้าจนถึงบริการหลังการขาย (User Experience) จะเข้ามามีบทบาท อย่างยิ่งต่อการตัดสินใจซื้อ ซึ่งซอฟต์แวร์จะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจ SME ที่จะช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
"ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์แบบครบวงจรให้ผู้ประกอบการ SME อย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ พร้อมเคล็ดลับความสำเร็จจากกูรูหลากหลายสาขา ทำให้ซัมซุงเชื่อมั่นว่าจะมีส่วนในการช่วยส่งเสริมธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ SME ทุกรายที่เข้าร่วมรับฟังการสัมมนาในวันนี้" นายมณฑล กล่าวทิ้งท้าย