กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันนี้ (๑๕ ต.ค. ๕๘) เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ระหว่างวันที่ ๖ – ๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ว่า ตนได้รับมอบหมายจาก พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วยนายชินชัย ชี้เจริญ ที่ปรึกษาวิชาการพัฒนาสังคม และคณะเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนในครั้งนี้ โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมเป็นรัฐมนตรีหรือผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ๑๐ ประเทศ ส่วนใหญ่มาจากกระทรวงด้านสวัสดิการสังคม วัฒนธรรม หรือกระทรวงแรงงาน สำหรับการประชุมในปี ๒๕๕๘ ประเทศมาเลเซียทำหน้าที่ประธานอาเซียน และในปีหน้า ๒๕๕๙ สปป.ลาว จะทำหน้าที่ประธานอาเซียน
นายไมตรี กล่าวต่อว่า การประชุมในครั้งนี้ มีการพิจารณาเรื่องสำคัญหลายเรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องการรับทราบเอกสาร ที่จะมีการเสนอต่อผู้นำอาเซียนในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๒๗ ระหว่างวันที่ ๒๑ – ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ จำนวน ๑๓ รายการ เช่น (๑) แผนงานประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ๒๐๒๕ ซึ่งจะใช้เป็นแผนการดำเนินงานในระยะเวลา ๑๐ ปีข้างหน้า (พ.ศ. ๒๕๕๙ – ๒๕๖๘) และ (๒) ปฏิญญาร่วมปุตราจายาว่าด้วยความสำคัญภายหลังปี ๒๐๑๕ ที่มุ่งสู่การเป็นราชการที่มีพลเมืองอาเซียนเป็นศูนย์กลาง เป็นต้น โดยมีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในฐานะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักเพื่อประสานการดำเนินงานของเสาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ได้แก่ (๑) ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยเรื่องผู้สูงอายุ การเพิ่มขีดความสามารถผู้สูงอายุในอาเซียน (๒) กรอบการทำงานในภูมิภาคและแผนการดำเนินงานตามปฏิญญาอาเซียน ว่าด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางมาตรการคุ้มครองทางสังคม (๓) นโยบายและแผนปฏิบัติการว่าด้วยการขจัดความรุนแรงต่อสตรี และ (๔) นโยบายและแผนปฏิบัติการว่าด้วยการขจัดความรุนแรงต่อเด็ก ทั้งนี้ แผนงานฯ ๒๐๒๕ จะมุ่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่องต่างๆ เช่น การสร้างประชาคมที่ทุกคนจะได้รับประโยชน์และเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม การคุ้มครองทางสังคมที่ครอบคลุม การดำรงชีวิตสำหรับทุกคนตั้งแต่เกิดจนตาย และการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งเศรษฐกิจ สังคมสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาที่มีพลวัต พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและการแข่งขันในกระแสสังคมโลก เป็นต้น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามแผนงานเสาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ – ๒๕๕๘ ซึ่งได้ดำเนินงานแล้วครบถ้วนทั้งหมด ๓๓๙ มาตรการ คิดเป็น ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งรับทราบรายงานการจัดทำตัวชี้วัดความสำเร็จของเสาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน และความคืบหน้าการดำเนินงานตามปฏิญญาอาเซียนต่างๆ เป็นต้น
"สำหรับแผนงานฯ ฉบับใหม่จะมุ่งเน้นในเรื่องการลดความยากจน การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ และการส่งเสริมเมืองที่เป็นมิตรต่อคนพิการและผู้สูงอาย ซึ่งตนเชื่อว่าในอีก ๑๐ ปีข้างหน้า ประชาชนอาเซียนจะสามารถเข้าถึงโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดีได้ อย่างแท้จริง ส่งผลให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals-SDGs) ซึ่งนายกรัฐมนตรีของ ประเทศไทยและผู้นำชาติอาเซียน ได้ให้การรับรองร่วมกันในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๗๐ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่ผ่านมา" นายไมตรี กล่าวท้าย