กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--พิตอน คอมมิวนิเคชั่น
Frost & Sullivan Industry Quotient Matrix 2015 Contact Center Outbound Systems Vendors report
แอสเปกซอฟท์แวร์ (Aspect Software) คลาวด์โปรวายเดอร์ชั้นนำที่ได้คว้ารางวัลมากมาย ที่ให้บริการโซลูชั่นที่ช่วยรองรับการติดต่อสื่อสารบริการลูกค้า, โซลูชั่นการจัดงานจำนวนพนักงาน ( Workforce Optimization) และการทำงานแบคออฟฟิศ ( Back Office Solution) ได้รับการยกย่องด้วยตำแหน่งผู้นำ Champions Quadrant ในรายงานโดยฟรอสต์&ซัลลิแวนเกี่ยวกับระบบเอ้าท์บาวน์ของคอนแทคเซ็นเตอร์ ('Frost & Sullivan Industry Quotient Matrix 2015 Contact Center Outbound Systems Vendors report') เมื่อเร็วๆ นี้
ในรายงาน Asia-Pacific Contact Center Outbound System Vendors ประจำปี 2015 โดยฟรอสต์ &ซัลลิแวนได้ประเมินโซลูชั่นเวนเดอร์หลักจำนวน 6 บริษัทในเอเชียแปซิฟิกเพื่อบ่งชี้ระดับของบริษัทในเมทริกซ์ Frost IQ ที่ประเมินผู้ให้บริการด้วยขนาดส่วนแบ่งการตลาด, นโยบายด้านผลิตภัณฑ์/บริการ, นโยบายด้านบุคลากรและทักษะ, นโยบายด้านอิโคซิสเต็ม และนโยบายธุรกิจ
จากรายงาน แอสเปกยังคงครองความเป็นผู้นำด้านการสนับสนุนการดำเนินงานลูกค้าสัมพันธ์ ด้วยโซลูชั่นพอร์ตโฟลิโอที่มีความหลากหลาย และตัวเลือกอีกมากมายเพื่อใช้งาน และกลุ่มพันธมิตรที่ครอบคลุม รองรับด้วยนโยบายการตลาดเชิงลึก นอกจากนี้ แอสเปกยังมีเทคโนโลยี predictive dialing technology ที่ใช้อัลกอริธึ่มก้าวล้ำหน้าในโซลูชั่นระดับที่ดีที่สุดในตลาด Aspect Unified IP ที่จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพของศูนย์ประสานงานลูกค้า (contact center) รวมทั้งช่วยเพิ่มความประทับใจในการให้บริการแก่ลูกค้าอีกทางด้วย
นายซานเจย์ กุบตา กรรมการผู้จัดการ เอเชียใต้ &ตะวันออกกลาง แอสเปก ซอฟท์แวร์กล่าวว่า?"รายงานนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ลูกค้าและตลาดมีต่อโซลูชั่นชั้นนำของแอสเปก ที่สนับสนุนนโยบายกลยุทธ์การปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Consumer Engagement) ของพวกเขา"
ฟังก์ชั่นการโทรแบบอัตโนมัติ ไปยังลูกค้า (outbound dialer) ของแอสเปกให้อำนาจแก่ผู้ใช้ในการตัดสินใจที่ชาญฉลาด เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการโทรติดต่อให้มากที่สุด รวมไปถึงความสามารถเชิงรุกในการติดต่อสื่อสารบริการลูกค้า (proactive engagements) ซึ่ง Proactive Engagement suite ของแอสเปกจะมีแอปพลิเคชันเทมเพลตที่ตั้งค่ามาแล้ว พร้อมใช้งานเพื่อการติดต่อลูกค้าจากบริษัทออกไปยังลูกค้า (outbound scenarios) เช่น สำรวจและเก็บข้อมูล เมื่อพิจารณาจากศักยภาพของแอสเปกซึ่งเป็นที่ยอมรับ ร่วมกับพาร์ตเนอร์อิโคซิสเต็มที่มีเสถียรภาพ และมีความใกล้ชิดกันเป็นอย่างดีกับพันธมิตรในเชิงลึก จึงถือได้ว่าแอสเปกอยู่ในตำแหน่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะให้บริการได้ต่อเนื่อง และครองตำแหน่งความเป็นผู้นำในตลาด
แอสเปกซอฟท์แวร์ได้รับรางวัล 2015 Asia Pacific Market Share Leadership สำหรับระบบ Outbound Systems โดยฟรอสต์ &ซัลลิแวน โดยรางวัล Best Practices Awards ของฟรอสต์ &ซัลลิแวนจะยกย่องบริษัทในตลาดทั่วทั้งภูมิภาคและโลกสำหรับความเป็นผู้นำเหนือใคร, นวัตกรรมเทคโนโลยี, บริการลูกค้า และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์
กฤษณา ไวทยา หัวหน้างานวิจัยด้านลูกค้าสัมพันธ์ ICT Practice ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวถึงความสำเร็จของแอสเปกว่า "การที่อยู่ในตลาดมาเป็นเวลายาวนาน, วิธีการติดต่อแบบแพลตฟอร์มเปิดเพื่อการต่อเชื่อมแบบไม่จำกัด (platform-agnostic approach) และความครบถ้วนของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ ทำให้แอสเปกเป็นที่ยอมรับและครองใจผู้มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อของศูนย์ประสานงานลูกค้าทั้งหลาย และการที่โซลูชั่นสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าไม่ว่าจะขนาดใดหรือมีความซับซ้อนในการปฏิบัติการอย่างใดได้เหมาะสมทำให้ โซลูชั่นของแอสเปกช่วยเป็นกำลังสนับสนุนเคมเปญการตลาดผ่านหลายช่องทางของลูกค้าได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการนำเสนอการดูแลลูกค้าเชิงรุกแบบดึงดูดใจลูกค้าสัมผัสใจคน (high-touch proactive) ผ่านหลากหลายช่องทางมากมาย ซึ่งเป็นจุดที่จะช่วยลูกค้าในการเพิ่มศักยภาพการผลิตมากขึ้น สร้างประสบการณ์น่าประทับใจที่ลูกค้าปลายทางได้รับจากการใช้บริการ และสร้างผลตอบรับทางธุรกิจแบบยั่งยืนได้เป็นอย่างดี การเติบโตอย่างรวดเร็วมากในจีนแผ่นดินใหญ่, ออสเตรเลีย และตลาดอาเซียนช่วยให้แอสเปกขยายส่วนแบ่งทางการตลาดขึ้นได้อีกระดับในเซกเมนต์การสื่อสารแบบเอ้าท์บาวน์ (outbound segment) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถึง 27.3เปอร์เซ็นจาก 25.0เปอร์เซ็นเมื่อปีที่แล้ว ย้ำเน้นถึงความมุ่งมั่นทางการตลาดตลอดจนความเป็นจ้าวตลาดของแอสเปก"
จันทร์ฟ้า คุณาวิวัฒน์ (Chanfa Kunawiwat) ผู้จัดการประจำประเทศไทย แอสเปก ซอฟท์แวร์ กล่าว "ความคาดหวังของลูกค้าในเรื่องประสบการณ์ความประทับใจของลูกค้าในการใช้บริการทุกวันนี้ได้รับการปรับให้รับกับการก้าวเข้ามาเป็นที่นิยมของช่องทางโซเชียลมีเดีย และการส่งข้อความในการพูดคุยระหว่างวัน เจเนเรชั่นมิลเลนเนียล ( Generation Y) ที่มีอายุระหว่าง 18 และ 34 กำลังนำการเปลี่ยนแปลงด้วยการสร้างประสบการณ์สื่อสารผ่านหลากหลายช่องทาง (omni-channel) และเป็นรูปแบบการสื่อสารที่กำลังเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน สิ่งที่น่าสนใจจากการสำรวจความประทับใจจากประสบการณ์ของผู้บริโภค (Aspect?Consumer Experience Index study) พบว่าธุรกิจจำเป็นต้องเริ่มหันมาให้ความสนใจเทรนด์ใหม่นี้ หรือมิฉะนั้นก็เสี่ยงที่จะสูญเสียรายได้ไป"?