กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
วัตถุประสงค์การเดินทาง
ตรวจเยี่ยมอาคารแสดงประเทศไทย
รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการเกษตรจากอาคารแสดงของประเทศต่างๆ(ญี่ปุ่น/สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์/อิสราเอล/อิตาลี)
ประชุมหารือ และแสดงความขอบคุณองค์กรผู้จัดงาน Expo Milano 2015
ศึกษาดูงานเทคโนโลยีและความก้าวหน้าของฟาร์มโคนม (ระบบ Bio Dynamic Farm) การบริหารจัดการฟาร์มโคนมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำมาพัฒนาโคนมของไทยในอนาคต
ความสำเร็จของอาคารแสดงประเทศไทยในแง่มุมต่างๆ
สื่อสังคมออนไลน์ อาคารแสดงประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 5 อาคารที่ได้รับความนิยม( สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ญี่ปุ่น อาเซอร์ไบจาน และคาซัคสถาน )
ประสบความสำเร็จในการสร้างภาพลักษณ์ให้คนทั้งโลกรับรู้ถึงศักยภาพของประเทศไทย ในการเป็นครัว ของโลก ( ผลิตผลทางการเกษตรเพียงพอ/ หลากหลาย / อาหารไทยเป็นที่นิยม/ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ)
- อาคารแสดงประเทศไทยได้รับความนิยมติดอันดับต้นๆ จาก 145 ประเทศ ซึ่งยอดผู้เข้าชมเคยสูงสุดถึง 16,000 คน /วัน) ( ข้อมูลผู้เข้าชม ณ วันที่ 12 ต.ค.58 จำนวน 1,973,103 คน คาดว่าในวันที่ 14 ต.ค.58 จะเกิน 2 ล้านคนตามเป้าหมาย 10 % ของผู้เข้าชมงานเอ็กซ์โป มิลาโน 2015)
- เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม การท่องเที่ยว
- การนำเสนอเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไทย ทำให้ทราบถึงพระราชกรณียกิจด้านการเกษตรที่พระองค์ท่านทำเพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทย นานาชาติยกย่อง และได้รับรางวัลเชิดชูพระเกียรติยศมากมาย
ยอดจำหน่ายสินค้าเกษตรในอาคารแสดงไทย ตลอด 6 เดือน มูลค่ากว่า 1.2 ล้านยูโร(Readyto EAT 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ผัดไทย 2. ข้าวหอมมะลิแกงมัสมั่น 3. ข้าวหอมมะลิแกงแดง4. ข้าวหอมมะลิแกงกะหรี่ 5. ไก่ย่าง/ Ready to GO 6 อันดับแรก ได้แก่ 1. ไอศกรีมมะพร้าว 2. เบียร์ 3. น้ำมะพร้าว 4. น้ำมะม่วง 5.น้ำมังคุด 6. น้ำลิ้นจี่/ Ready to Cook 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ข้าวหอมมะลิ 2. ชุดผัดไทยพร้อมปรุง 3. ซอสพริก 4. ซอสงา5. ชุดก๋วยเตี๋ยวต้มยำพร้อมปรุง )
เกิดการเจรจาธุรกิจ หรือแนวโน้มกับสินค้าครัวไทยสู่ครัวโลกไปจำหน่ายมากขึ้น เช่น น้ำผลไม้และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของมาลี ที่นักธุรกิจในแถบสหรัฐฯ และตะวันออกกลางให้ความสนใจ หรือการสั่งซื้อมะพร้าวน้ำหอมเพื่อนำมาจำหน่ายในเยอรมันและอิตาลี เป็นต้น