กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--ธนาคารยูโอบี
ธนาคารยูโอบีเดินหน้าสนับสนุนการเติบโตของสถาบันการเงินที่มีแผนขยายธุรกิจและการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ กลุ่มลูกค้าสถาบันการเงิน (Financial Institutions Group) ของธนาคารยูโอบีมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นกว่า 40 เปอร์เซนต์จากการที่ธนาคารใช้ความเชี่ยวชาญและเครือข่ายทางธุรกิจเพื่อตอบความต้องการของลูกค้ากลุ่มสถาบันการเงินในด้านเงินทุน สินเชื่อการค้า บริการบริหารเงินสด บริการด้านตลาดทุนและการป้องกันความเสี่ยง
ลูกค้ากลุ่มนี้คือสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ เช่นบริษัทประกัน กองทุนระหว่างประเทศ กองทุนความมั่งคั่ง (sovereign wealth fund) และกองทุนบำเหน็จบำนาญ
คุณลิม เล วา (Ms Lim Lay Wah) หัวหน้ากลุ่มลูกค้าสถาบันการเงินของธนาคารยูโอบี (สิงคโปร์) กล่าวว่าความเป็นพันธมิตรระหว่างธนาคารกับกลุ่มลูกค้าสถาบันการเงินจะช่วยให้ลูกค้าเหล่านี้มีบทบาทมากขึ้นในการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย
"การเติบโตของธุรกิจสถาบันการเงินถูกขับเคลื่อนด้วยการค้าระหว่างประเทศภายในภูมิภาคเอเชียที่กำลังเติบโต ความต้องการสาธารณูปโภคและการบริหารความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของชนชั้นกลาง การที่ธนาคารยูโอบีมีความรู้อย่างลึกซึ้งในภูมิภาคเอเชีย และมีเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันทั่วภูมิภาคช่วยทำให้กลุ่มลูกค้าสถาบันการเงินของเรามีโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆในภูมิภาค" คุณลิม กล่าว
ตัวอย่างหนึ่งของความร่วมมือได้แก่ธนาคาร Indonesia Eximbank (IEB) ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลอินโดนีเซีย ซึ่งธนาคารยูโอบีเป็นสถาบันหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดจำหน่ายหลัก ( mandated lead arrangers, underwriters and bookrunners) (MLABs) เงินกู้ร่วมจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. IEB มีแผนจะใช้เงินกู้นี้เพื่อสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศของธุรกิจอินโดนีเซีย และในขณะนี้ธนาคารยูโอบียังให้คำปรึกษาด้านการบริหารสภาพคล่อง การบริหารเงิน และทางเลือกในการระดมทุนจากตลาดทุนกับ IEB ด้วย
Mr Basuki Setyadid กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ IEB กล่าวว่า "เรามีความยินดีที่ได้ร่วมงานกับธนาคารยูโอบีเพื่อความสำเร็จของเงินกู้ร่วมที่ผ่านมา เงินกู้นี้เป็นไปตามความคาดหวังของเราที่จะระดมทุนด้วยต้นทุนที่เราคาดหวังและกระจายแหล่งระดมทุนให้หลากหลาย นับเป็นครั้งที่สองที่เราได้แต่งตั้งธนาคารยูโอบีให้เป็น MLABs ของเราเนื่องจากเรามีความเชื่อมั่นในความมุ่งมั่นและความเป็นมืออาชีพของธนาคาร"
สนับสนุนสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารให้มีโอกาสเข้าถึงการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย
นอกเหนือไปจากการช่วยธนาคารแล้ว ธนาคารยูโอบียังตอบสนองความต้องการของสถาบันการเงินประเภทอื่นที่กำลังมองหาช่องทางขยายสินทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตามโอกาสที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาค ตัวอย่างเช่นกองทุนบำเหน็จบำนาญที่มีการคาดการณ์ว่าจะลงทุนในสินทรัพย์ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค จำนวน 6.5 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สรอ. ภายในปี 2563 นับเป็นการเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปี 2555
คุณลิม กล่าวว่า "เราเห็นกองทุนระดับโลกจำนวนมากที่กำลังหันมาลงทุนในตลาดเอเชีย ในฐานะที่เป็นธนาคารที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วภูมิภาค ธนาคารยูโอบีสามารถเชื่อมโยงลูกค้าให้มีโอกาสดีๆในภูมิภาคและช่วยให้ลูกค้าสรรหาเพื่อให้ความสนับสนุนทางการเงินแก่สินทรัพย์ที่มีคุณภาพ"
ตัวอย่างหนึ่งของลูกค้าคือ ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ อินเวสเตอร์ (Phoenix Property Investors) ซึ่งเป็นธุรกิจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชนที่กำลังเล็งโอกาสการลงทุนในเอเชีย นอกเหนือจากการช่วยเหลือลูกค้าให้บริหารความเสี่ยงทางด้านตลาดและสภาพคล่องแล้ว ธนาคารยูโอบียังมุ่งมั่นในการให้บริการทางการเงินและคำปรึกษาในการหาเงินทุนและระดมทุนจากตลาดทุนด้วย
นายซามูแอล ชู หุ้นส่วนและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ อินเวสเตอร์ กล่าวว่า "ธนาคารยูโอบีมีทีมพนักงานที่มีความรู้เรื่องตลาดในเชิงลึกและมีความเข้าใจความต้องการของธุรกิจโดยเฉพาะ ที่คอยให้บริการลูกค้าทั่วภูมิภาค พวกเขาอยู่เหนือกว่าความคาดหวังของพวกเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของความเป็นมืออาชีพและการมองการณ์ไกล ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถให้บริการที่ตรงตามความต้องการของธุรกิจในการแสวงหาโอกาสในตลาดเอเชียในเวลาที่เหมาะสมเพื่อตอบความต้องการในการลงทุนของเรา"