กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--นิวส์ เพอร์เฟค คอมมิวนิเคชั่น
ผลวิจัยหลายชิ้นยืนยันเศรษฐกิจโดยรวมของไทยในไตรมาสสุดท้ายยังไม่ฟื้นตัว เอสเอ็มอีไทย ยังคงต้องต่อสู้อย่างหนัก ทั้งเพิ่มกำลังการผลิต เร่งขายสินค้า ระบาย สต๊อคสินค้าเก่า ทำการตลาด และปิดงบดุลบัญชี
เรวดี วัฏฏานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บาร์เทอร์คาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าไตรมาสสุดท้ายมีความสำคัญกับบริษัทต่างๆเป็นอย่างมาก เพราะจะเป็นตัวชี้วัดว่า ทิศทางของบริษัทจะเป็นอย่างไรต่อไปในปีหน้า และต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยในปีนี้ยังไม่ดีนัก บริษัทที่ทำยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ถือว่าโชคดีไป ส่วนบริษัทที่รอความหวังในไตรมาสสุดท้ายนี้ ยังคงต้องเหนื่อยกันต่อไป จากสถิติ ยอดสมาชิกของบาร์เทอร์คาร์ดจะเพิ่มขึ้นสูงเป็นพิเศษ ในช่วงที่เศรษฐกิจโดยรวมไม่ดีนัก เนื่องจากนักธุรกิจเริ่มมองเห็น และเข้าใจในการนำระบบบาร์เทอร์มาใช้เป็นตัวช่วย ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
" บาร์เทอร์คาร์ด ถือเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับธุรกิจ เริ่มตั้งแต่การให้วงเงินโดยปราศจากดอกเบี้ยให้ เอสเอ็มอี นำไปใช้ก่อน เพื่อจะได้สำรองเงินสดไว้ใช้อย่างอื่น วงเงินที่ได้รับนั้นสามารถนำไปใช้ได้อย่างหลากหลาย ในกลุ่มสมาชิกบาร์เทอร์คาร์ด ที่มีอยู่กว่า 3,000 ธุรกิจในประเทศไทยและ 35,000 ธุรกิจทั่วโลก อาทิ ซื้ออุปกรณ์สำนักงาน ทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย จัดหาวัตถุดิบมาผลิตสินค้า ปิดงบบัญชีประจำปี ใช้เป็นโบนัสพนักงาน เป็นต้น บาร์เทอร์คาร์ด ยังมีระบบที่จะช่วยผู้ผลิตที่มีสินค้าในสต๊อคเป็นจำนวนมาก ให้สามารถระบายสินค้าได้อย่างรวดเร็ว เพื่อนำเงินเทรดที่ได้ไปต่อยอดธุรกิจ ปัจจุบัน ระบบบาร์เทอร์คาร์ดสามารถช่วยลูกค้าทำธุรกิจได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ขึ้นอยู่กับลูกค้าว่าจะนำบาร์เทอร์คาร์ดไปเสริมจุดแข็ง และแก้จุดอ่อนของตัวเองในส่วนไหน " เรวดี กล่าว
ทั้งนี้ บาร์เทอร์คาร์ด นับเป็นทางเลือกใหม่สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ด้านการให้บริการแลกเปลี่ยนสินค้า และบริการโดยไม่ต้องใช้เงินสดรายใหญ่ที่สุดในโลก ในรูปแบบ Business to Business (B2B) ที่ช่วยลดต้นทุนด้านเงินสด และค่าใช้จ่ายต่างๆผ่านระบบสมาชิกที่อยู่ในระบบทั่วโลก ผู้สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจบาร์เทอร์คาร์ด สามารถสอบถาม และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bartercard.co.th