ดั๊บเบิ้ล เอ ขานรับนโยบายสุวิทย์ ยุทธศาสตร์ธุรกิจระดับโลกเชิงรุก

ข่าวทั่วไป Monday October 19, 2015 17:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--คิธ แอนด์ คิน ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ธุรกิจระดับโลกเชิงรุก (Global Platform) ตามนโยบาย รมช. พาณิชย์ ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ ในโอกาสที่ รมช.พาณิชย์ นำภาครัฐ - ธุรกิจ เดินทางเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นยกระดับการค้า - การลงทุนไทย - ฝรั่งเศส 14 - 17 ต.ค. นี้ พร้อมโชว์โมเดลโรงไฟฟ้าจากพืชพลังงานที่ส่งเสริมให้ปลูกขึ้นทดแทนพืชเกษตร ซึ่งเป็นโมเดลการปรับสมดุลเกษตรส่วนเกินของฝรั่งเศส นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะได้เยี่ยมชมโรงงานกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ อลิเซ่ และโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือดั๊บเบิ้ล เอ ณ เมืองอลิเซ่ สาธารณรัฐฝรั่งเศสซึ่งการเยี่ยมชมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของ รมช. พาณิชย์ และคณะในการเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ยกระดับการค้าการลงทุนระหว่างไทย - ฝรั่งเศส ในระหว่างวันที่ 14 - 17 ตุลาคมนี้ โดยภารกิจที่สำคัญคือการเข้าร่วม "Business Forum" ซึ่งเป็นเวทีที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อนักธุรกิจและนักลงทุนฝรั่งเศส หนึ่งในสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทย ในการปฏิรูปประเทศ ความชัดเจนในนโยบายเศรษฐกิจ และการดำเนินตาม Roadmap ที่ท่านนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้วางไว้ เพื่อนำประเทศไทยสู่อนาคต สำหรับการเยี่ยมชมกิจการของดั๊บเบิ้ล เอ ครั้งนี้ รมช.พาณิชย์ได้กล่าวมอบนโยบายให้ภาคเอกชนไทยได้ร่วมขับเคลื่อนนโยบายสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ เพื่อขับเคลื่อนสู่การสร้างฐานความเข้มแข็งในระดับโลกทั้งในด้านการตลาดและการลงทุน กล่าวคือต้องมองถึงการพัฒนาศักยภาพสู่การแข่งขันในระดับโลก หรือยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจในระดับโลก หรือ Global Platform ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทไทยได้ก้าวออกมาลงทุนทำธุรกิจในต่างประเทศมากขึ้น และดั๊บเบิ้ล เอ ถือเป็นตัวอย่างที่พิสูจน์ให้เห็นว่า บริษัทคนไทยก็มีความสามารถในการแข่งขันระดับโลก นายโยธิน กล่าวว่า ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมร่วมขับเคลื่อนนโยบายการสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ ซึ่ง ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช. พาณิชย์ ได้ย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจการค้าระดับโลกมีความผันผวนและเปราะบาง ซึ่งทำให้ประเทศไทยต้องสร้างความสมดุลจากความเข้มแข็งในประเทศผ่านยุทธศาสตร์การสร้างเศรษฐกิจภายใน พร้อมไปกับการค้าระหว่างประเทศ ในระหว่างการเยี่ยมชมโรงงานกระดาษและโรงไฟฟ้าชีวมวลของดั๊บเบิ้ล เอ อลิเซ่ นายโยธิน ยังได้รายงาน รมช.พาณิชย์ เรื่องที่มาของเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ มาจากนโยบายการปรับสมดุลของพื้นที่เกษตรในยุโรปเมื่อปี 1992 โดยสหภาพยุโรป (EU) ส่งเสริมสนับสนุนภาคการเกษตรให้ปรับเปลี่ยนพื้นที่เพาะปลูกพืชเกษตรส่วนเกิน เป็นพื้นที่ปลูกพืชพลังงานทดแทนเพื่อมาผลิตไบโอดีเซล ซึ่งพืชพลังงานปัจจุบันสามารถเก็บเกี่ยวเพื่อนำมาผลิตไฟฟ้าชีวมวล โดยโรงงานกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ อลิเซ่ ซื้อไม้จากที่ปลูกในช่วงการส่งเสริมของรัฐบาลนำมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า และขายไฟฟ้าให้กับรัฐบาลฝรั่งเศสในอัตราค่าไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งเป็นโมเดลที่น่าจะนำมาปรับใช้กับประเทศไทยได้ เพื่อช่วยแก้ปัญหาเกษตรกรที่ปลูกข้าวได้ผลผลิตรายได้ไม่คุ้มทุน เช่น การปลูกข้าวในพื้นที่นาดอน หรือพื้นที่นอกเขตชลประทาน และเป็นการส่งเสริมการสร้างพลังงานใช้เอง ลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิง LNG จากต่างประเทศมาผลิตไฟฟ้า โดยจะทำให้การบริหารจัดการพื้นที่การเกษตรมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อทั้งภาคการเกษตร สิ่งแวดล้อม และด้านพลังงาน ปัจจุบันโรงงานกระดาษอลิเซ่มีกำลังการผลิต 300,000 ตันต่อปี แบ่งเป็นการผลิตกระดาษสำนักงาน 220,000 ตัน และกระดาษม้วนใหญ่ 80,000 ตัน ส่งผลให้กำลังการผลิตกระดาษรวมของดั๊บเบิ้ล เอ ทั้งในประเทศไทยและฝรั่งเศส เพิ่มขึ้นเป็น 1,000,000 ตันต่อปี ทำให้มีรายได้จากการส่งออกกระดาษเข้าสู่ประเทศไม่น้อยกว่าปีละ 10,000 ล้านบาท และสนับสนุนให้ชาวนาไทยมีรายได้เสริมจากการปลูกต้นกระดาษบนคันนานับล้านครอบครัว อีกทั้งในปีหน้าดั๊บเบิ้ล เอ เตรียมส่งออกชิ้นไม้สับจากต้นกระดาษที่เกษตรกรไทยปลูกมาผลิตเป็นเยื่อกระดาษ และกระดาษที่โรงงานกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ อลิเซ่ ฝรั่งเศส ซึ่งช่วยให้ประเทศไทยมีรายได้เสริมจากการส่งออกเพิ่มมากขึ้นด้วย การที่ ดั๊บเบิ้ล เอ มีฐานการผลิตในยุโรป จะทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านเขตการค้าเสรีทั้งในแถบยุโรป และแถบทะเลเมดิเตอเรเนียน โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าดังเช่นกรณีส่งกระดาษไปขายจากประเทศไทย นอกจากนี้ ประเทศฝรั่งเศส ยังเป็นศูนย์กลางตลาดในยุโรป ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษรายใหญ่ของโลก และอยู่ใกล้กับตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต อย่างแอฟริกา และตะวันออกกลาง อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกส์สอดคล้องกลยุทธ์ ในการประกอบธุรกิจที่จะขยายขนาดของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาดและส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตกระดาษสำนักงานลดลงจึงเป็นการบริหารและควบคุมต้นทุนการผลิตให้เหนือกว่าผู้ประกอบการรายอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน "การพัฒนาธุรกิจภายในยุทธศาสตร์ระดับโลก (Global Platform) คือแนวทางการสร้างความเชื่อมั่นเชิงรุกให้กับระบบเศรษฐกิจไทยที่ดีที่สุดทางหนึ่ง ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เป็นบริษัทไทยที่ขานรับยุทธศาสตร์นี้ และพัฒนาอุตสาหกรรมกระดาษสู่ตลาดโลกอย่างเป็นรูปธรรม" นายโยธิน กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ