กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
JWD จัดตั้งบริษัทฯ ลูกเพื่อทำหน้าที่ REIT Manager รับแผนเตรียมออกกอง REIT เดินหน้าพิจารณาศึกษาสินทรัพย์ที่เตรียมจะนำเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) คาดสามารถดำเนินการได้ภายในปี 59
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ภาคพื้นดินอย่างครบวงจร เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2558 มีมติอนุมัติให้ดำเนินการจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT Manager) รองรับนโยบายการจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการภายในปี 2559 โดยอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะนำสินทรัพย์ใดของบริษัทฯ เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT ซึ่งจะมีการแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีคลังสินค้าทั่วไป คลังสินค้าอันตราย คลังสินค้าแช่เย็นแช่แข็ง คลังสินค้าสำหรับเก็บเอกสาร คิดเป็นพื้นที่รวมกว่า 210,000 ตารางเมตรและมีลานสินค้าอันตราย รวมถึงลานสำหรับพักรถยนต์เพื่อการส่งออกภายในพื้นที่นิคมฯ แหลมฉบัง ถนนบางนา กิโลเมตรที่ 19 ตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาครและสุวินทวงศ์ อีกกว่า 557,000 ตารางเมตร
ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ภายในประเทศอย่างครบวงจรมานานกว่า 35 ปี ปัจจุบันบริษัทฯ มีพื้นที่ให้บริการทั้งในเขตพื้นที่ทั่วไปและเขตปลอดอากรรวม 775,743 ตารางเมตร โดยตั้งอยู่บนทำเลหลักสำหรับการนำเข้าและส่งออก รวมถึงจุดกระจายสินค้าหลักๆ ของประเทศ ประกอบด้วยคลังสินค้าจำนวน 40 หลัง พื้นที่รวม 206,488 ตารางเมตรและลานรับฝากสินค้า 569,255 ตารางเมตร โดยตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง 608,187 ตารางเมตร ถนนกรุงเทพกรีฑา 4,575 ตารางเมตร ถนนสามวา 19,200 ตารางเมตร ถนนบางนา-ตราด กม.19 ขนาด 94,480 ตารางเมตร ถนนสุวินทวงศ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา 18,905 ตารางเมตร ตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร 27,996 ตารางเมตรและอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ 2,400 ตารางเมตร โดยพื้นที่ดังกล่าวรวมพื้นที่การให้บริการจัดการสินค้าอันตราย 184,000 ตารางเมตร ที่บริษัทฯ ได้รับสัมปทานเพียงรายเดียวในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ส่งผลให้สินค้าอันตรายทั้งหมดที่เข้า-ออกผ่านท่าเรือฯ ต้องผ่านคลังสินค้าอันตรายของบริษัทฯ เท่านั้น
สำหรับจุดแข็งของการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ นั้น 1.บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ภาคพื้นดินแบบครบวงจร ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการให้แก่ลูกค้าได้อย่างครบถ้วน 2.บริษัทฯ มุ่งเน้นการให้บริการในกลุ่มธุรกิจที่มีความซับซ้อนสูงกว่าการให้บริการทั่วไป เช่น การบริหารจัดการคลังสินค้าอันตราย สินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นแช่แข็ง สินค้ารถยนต์ซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องการความถูกต้องและรวดเร็วในการให้บริการ และ 3.บริษัทฯ นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาช่วยในการบริหารจัดการคลังสินค้าเพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวถูกพัฒนาโดยบริษัทในเครือ