กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--Syllable
กรมการท่องเที่ยวเร่งตรวจประเมินมาตรฐานโฮมสเตย์ 63 แห่ง 34 จังหวัด เพื่อมอบป้ายมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย ต้นปี 2559 พร้อมจะคัดเลือกรายชื่อสุดยอดโฮมสเตย์อาเซียน 5 แห่ง เข้ารับรางวัล 'ASEAN HOMESTAY AWARD' ในงาน ATF 2016 ณ ประเทศฟิลิปปินส์
นางสาววรรณสิริ โมรากุล รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อยู่ระหว่าง การตรวจประเมินมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย ซึ่งในปีนี้ มีโฮมสเตย์ที่ขอตรวจประเมินทั้งหมด 63แห่ง 34 จังหวัดโดยเป็นโฮมสเตย์ที่ขอเข้ามาใหม่และโฮมสเตย์ที่จะหมดอายุการรับรอง มาขอต่ออายุ เพราะมาตรฐานโฮมสเตย์จะมีอายุการรับรอง3 ปี คาดว่าผลการประเมินจะออกมาประมาณปลายเดือน พ.ย. - ต้น ธ.ค. และจะมีการจัดงานพิธีมอบป้ายมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย ต้นปี 2559 และจะคัดเลือกรายชื่อสุดยอดโฮมสเตย์อาเซียน 5 แห่ง เข้ารับรางวัล 'ASEAN HOMESTAY AWARD' ในงาน ATF 2016 ณ ประเทศฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ กรมการท่องเที่ยวมีภารกิจหลักในการพัฒนาสินค้าและบริการท่องเที่ยวโดยได้จัดทำมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยขึ้นในปี 2546 เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวมีรายได้เสริมจากการจัดให้มีบริการในรูปแบบที่พักสัมผัสวัฒนธรรมชนบทซึ่งนักท่องเที่ยวมีโอกาสพักร่วมกับเจ้าของบ้าน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านอาชีพ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ประเพณีวัฒนธรรมของชุมชน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่อยู่ใกล้เคียงชุมชน และมีโอกาสทำกิจกรรมต่างๆที่หลากหลาย เช่น นั่งเรือชมธรรมชาติ ขี่จักรยาน เดินป่าศึกษาธรรมชาติ โดยมีการจัดบริการสิ่งอำนวยความสะดวกตามสมควรแก่นักท่องเที่ยว
สำหรับมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยได้กำหนดเกณฑ์ไว้ 10 ด้าน 31 ตัวชี้วัด ได้แก่
1.ด้านที่พัก จะต้องมีบ้านพักเป็นสัดส่วน ที่พักที่นอนสะอาดสบายมีห้องน้ำห้องสุขาที่สะอาดมิดชิดมีมุมพักผ่อนภายในบ้านหรือชุมชน
2. ด้านอาหาร จะพิจารณาถึงชนิดของอาหารและวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหารต้องใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นมีน้ำดื่มที่สะอาด มีภาชนะบรรจุอาหารที่สะอาด ห้องครัวและอุปกรณ์ที่ใช้ในครัวสะอาด
3. ด้านความปลอดภัย จะต้องมีการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและมีการจัดเวรยามดูแลความปลอดภัย
4.ด้านอัธยาศัยไมตรีของเจ้าของบ้านและสมาชิก การต้อนรับและการสร้างความคุ้นเคย การสร้างกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้ในวิถีชุมชน
5.ด้านรายการนำเที่ยวต้องมีความชัดเจนผ่านการยอมรับจากชุมชน และมีข้อมูลกิจกรรมการนำเที่ยว
6.ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีแหล่งท่องเที่ยวภายในชุมชนหรือบริเวณใกล้เคียง มีการดูแลแหล่งท่องเที่ยว มีแผนงานหรือมาตรการตลอดจนกิจกรรม อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อลดผลกระทบจากการท่องเที่ยว และลดสภาวะโลกร้อน
7.ด้านวัฒนธรรม มีการรักษาวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นรักษาวิถีชุมชนคงไว้เป็นกิจวัตรปกติ
8.ด้านการสร้างคุณค่าและมูลค่าของผลิตภัณฑ์ชุมชน จะต้องมีผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพื่อเป็นของที่ระลึกของฝากหรือจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวรวมถึงมีผลิตภัณฑ์ที่สร้างคุณค่าและมูลค่าที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน
9.ด้านการบริหารของกลุ่มโฮมสเตย์ จะต้องมีการรวมกลุ่มของชาวบ้าน มีคณะกรรมการบริหารกลุ่ม มีกฎกติกาการทำงาน มีการกระจายผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม มีระบบการจองล่วงหน้าการลงทะเบียนและชำระเงินล่วงหน้า ตลอดจนรายละเอียดค่าธรรมเนียมและบริการต่างๆ ที่ชัดเจนและเป็นปัจจุบัน
10.ด้านการประชาสัมพันธ์ ต้องมีเอกสารสิ่งพิมพ์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของชุมชนและมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า ในปัจจุบันมีโฮมสเตย์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย ทั้งหมด 142 แห่งทั่วประเทศแบ่งออกเป็นภาคเหนือมี 52 แห่ง กระจายอยู่ใน 11 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี 42แห่ง กระจายอยู่ใน 15 จังหวัด ภาคใต้มี 20 แห่ง กระจายอยู่ใน 9 จังหวัด ภาคกลางมี 17 แห่ง กระจายอยู่ใน 11 จังหวัด และภาคตะวันออกมี 11แห่ง กระจายอยู่ใน 5 จังหวัด