กรุงเทพ--4 มิ.ย.--วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล
วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศการรวมตัวครั้งสำคัญของสถาบันการเงินชั้นนำของโลกร่วมเป็นยูสเซอร์ กรุ๊ป (User Group) ในการใช้ วีซ่า โอเพ่น แพลทฟอร์ม (Visa Open Platform) บนพื้นฐานเทคโนโลยีจาวา ซึ่งนับเป็นการปฏิวัติวงการสมาร์ทการ์ดครั้งสำคัญด้วยเทคโนโลยีล่าสุดและจะเป็นจุดพลิกผันในการสร้างความเติบโตให้กับการใช้สมาร์ทการ์ดแบบมัลติฟังก์ชั่นทั่วโลก
ยูสเซอร์ กรุ๊ปกลุ่มนี้ประกอบด้วยสมาชิกซึ่งเป็นธนาคารและสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ซึ่งร่วมกันค้นหาวิถีทางที่จะนำวีซ่า โอเพ่น แพลทฟอร์ม มาใช้เพื่อพัฒนาบริการที่ใช้เทคโนโลยีมัลติฟังก์ชั่น สมาร์ทการ์ด เพื่อนำเสนอบริการหลากประเภทที่สร้างความสะดวกสบายและเพิ่มคุณค่าให้แก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านการชำระเงิน, ระบบการตรวจสอบผู้ถือบัตร (Identification), บัตรผ่านเข้าสถานที่ต่าง ๆ (Physical Access), บัตรผ่านเข้าสู่เครือข่าย (Network Access), โปรแกรมสะสมของรางวัล (Loyalty Programmes) และบริการด้านอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้สมาร์ทการ์ดจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพในการใช้บริการให้กับทั้งหน่วยงานต่าง ๆ และบุคคลทั่วไป
ณ วันนี้ มีสถาบันการเงินชั้นนำเข้าร่วมเป็นสมาชิกยูสเซอร์ กรุ๊ป ทั้งสิ้น 26 รายทั่วโลก
มร. เอ็ดมันด์ เจนเซ่น ประธานกรรการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “สมาชิกที่เข้าร่วมในยูสเซอร์ กรุ๊ป ของวีซ่า โอเพ่น แพลทฟอร์ม นับเป็นสถาบันการเงินที่เล็งเห็นแนวโน้มและประโยชน์อันมหาศาลของการนำเทคโนโลยีสมาร์ทการ์ด ผนวกกับระบบการชำระเงิน และเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการให้บริการลูกค้า ซึ่งเมื่อผนวกองค์ประกอบทั้งสามข้อเข้าด้วยกันแล้ว ธนาคารเหล่านี้จะนับได้ว่าเป็นผู้นำระดับโลกในวงการด้านการเงินเนื่องจากสามารถให้บริการด้านข้อมูล และบริการด้านชำระเงินแก่ลูกค้าได้อย่างไร้ขีดจำกัดทั้งในปัจจุบันและอนาคต”
มร. เจนเซ่น กล่าวต่อไปว่า “การเข้าร่วมเป็นสมาชิกในยูสเซอร์ กรุ๊ป จะทำให้ธนาคารสมาชิกสามารถพัฒนาการให้บริการได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยเพิ่มความพอใจลูกค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะการณ์ที่มีการแข่งขันกันสูงอย่างยิ่งในเวทีการค้าโลก”
สมาชิกผู้ร่วมในวีซ่า โอเพ่น แพลทฟอร์ม ยูสเซอร์ กรุ๊ป จะแลกเปลี่ยนข้อมูลและร่วมกันหารือเพื่อนำระบบมัลติฟังก์ชั่นไปใช้ในงานของธนาคาร นอกจากนี้ สมาชิกยังจะได้รับสิทธิพิเศษในการได้รับข้อมูลทางด้านโอกาสธุรกิจ และการพัฒนาเทคโนโลยีล่าสุดก่อนสถาบันอื่น ๆ นอกจากนี้ สมาชิกยังสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์และติดต่อกับผู้ให้บริการเทคโนโลยีได้โดยตรงเพื่อที่สมาชิกสามารถนำเทคโนโลยีไปใช้ได้ตามความต้องการ
และที่ประเทศสิงคโปร์วันนี้ ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ และวีซ่า ได้ร่วมกันสาธิตวิธีการใช้สมาร์ทการ์ดบนพื้นฐานเทคโนโลยีวีซ่า โอเพ่น แพลทฟอร์ม และจาวา เป็นครั้งแรก โดยแสดงให้ผู้เข้าชมเห็นถึงกระบวนการซื้อสินค้าและชำระเงินผ่านอินเตอร์เน็ตโดยใช้วีซ่า โอเพ่น แพลทฟอร์ม ด้วยเทคโนโลยี
จาวา ซึ่งสมาร์ทการ์ดดังกล่าวนี้มีแอพพลิเคชั่นในการใช้งานได้หลายประการไม่ว่าจะเป็นด้านระบบบัตรเครดิต, ระบบสะสมของรางวัล และระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงินผ่านอินเตอร์เน็ตซึ่งใช้แอพพลิเคชั่นระบบ SET (Secure Electronic Transaction) นอกจากนี้ สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ และวีซ่า ยังสาธิตการชำระเงินด้วยระบบบัตรเครดิต และสะสมของรางวัลผ่านเครื่องรับชำระเงินที่ใช้กันปกติ เพื่อแสดงให้เห็นว่าวีซ่า โอเพ่น แพลทฟอร์ม สามารถใช้การได้ทั้งบนอินเตอร์เน็ต และใช้ได้กับเครื่องตามร้านค้าทั่วไป
ในปัจจุบัน หน่วยงานชั้นนำระดับโลกหลายแห่งให้การยอมรับและนำวีซ่า โอเพ่น แพลทฟอร์มไปใช้เป็นจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าระบบเปิดเริ่มที่จะได้รับการยอมรับเป็นมาตรฐานของเทคโนโลยีสมาร์ทการ์ด ทั้งนี้ เห็นได้จากการที่บริษัทผู้จัดหาฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์กว่า 100 แห่งได้ให้สัญญาที่จะสนับสนุนและพัฒนาแอพพลิเคชั่นของเทคโนโลยีสมาร์ทการ์ดต่อไปในอนาคต และเพื่อให้เป็นไปตามหลักการของระบบเปิด วีซ่าจึงได้เปิดโอกาสให้ทุก ๆ หน่วยงานสามารถนำโอเพ่น แพลทฟอร์มของวีซ่าไปประยุกต์ใช้ได้โดยอิสระ
วีซ่า โอเพ่น แพลทฟอร์ม ได้ยกระดับการใช้งานสมาร์ทการ์ดให้ก้าวสูงขึ้นอีกขั้นหนึ่ง โดยทำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถเขียนโปรแกรมซึ่งสามารถนำสมาร์ทการ์ด ไปใช้งานร่วมกับชิป หรือระบบนปฎิบัติการใด ๆ ได้อย่างง่ายดาย และเนื่องจากวีซ่า โอเพ่น แพลทฟอร์ม ใช้เทคโนโลยีจาวาการ์ด (Java Card) ดังนั้น ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์จึงเพียงแค่เขียนโปรแกรมขึ้นครั้งเดียวและสามารถใช้โปรแกรมนั้นทำงานร่วมกับชิป หรือระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ที่สามารถใช้งานในระบบเปิดได้ทุกระบบ จึงหมายความว่าธนาคาร และสถาบันการเงินสามารถเลือกใช้ระบบปฏิบัติการที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมหลายประเภทได้ตามความต้องการ นอกจากเป็นการลดต้นทุนแล้ว ธนาคารยังสามารถนำเสนอบริการหลากประเภทซึ่งเพิ่มคุณค่าให้แก่ลูกค้าได้อีกด้วย
วีซ่า โอเพ่น แพลทฟอร์ม เป็นเพียงหนึ่งในผลิตภัณฑ์และบริการหลายประเภทในระบบสมาร์ทการ์ด ที่วีซ่านำเสนอให้แก่ผู้ถือบัตร เทคโนโลยีสมาร์ทการ์ดเกิดจากประสบการณ์หลายปีในการวิจัยและความรู้ด้านการตลาดของวีซ่าที่สั่งสมต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้ สมาร์ทการ์ด ยังหมายถึงการสนับสนุนที่วีซ่าได้รับจากบริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีชั้นนำซึ่งถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญของวีซ่า ซึ่งช่วยให้วีซ่าสามารถมอบโซลูชั่นด้านสมาร์ทการ์ด ที่มีความเร็วในการประเมินผล รวมทั้งประหยัดค่าใช้จ่าย ให้แก่ธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อนำไปใช้ในการบริการลูกค้าต่อไป
วีซ่าเป็นวิธีการชำระเงินที่ดีที่สุดในโลก โดยเป็นระบบการชำระเงินระบบใหญ่ที่สุดที่ผู้บริโภคให้ความนิยมมากที่สุดในโลก วีซ่ามียอดการใช้บัตรสูงกว่าบัตรอื่น ๆ รวมกันทั้งหมด วีซ่ามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบการชำระเงินและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนธนาคารสมาชิกจำนวน 21,000 แห่ง ซึ่งเป็นอำนวยประโยชน์ให้แก่ลูกค้าของธนาคาร และเศรษฐกิจของโลกโดยรวม ในฐานะที่วีซ่าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีล่าสุด วีซ่าได้ให้บริการการชำระเงินระบบชิปทั้งหมด 70 บริการใน 31 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งบริการบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งประกอบด้วยวีซ่าชิป การ์ด 22 ล้านใบ และวีซ่า แคช 8 ล้านใบ วีซ่าเป็นผู้บุกเบิกระบบการทำธุรกรรมอิเล็คทรอนิคส์อย่างปลอดภัย หรือ Secure Electronic Transaction — SET บัตรวีซ่าจำนวน 618 ล้านใบทั่วโลกได้รับการยอมรับจากร้านค้าจำนวนกว่า 15 ล้านแห่ง และเอทีเอ็ม 400,000 เครื่องในเครือข่ายวีซ่า โกลบัล เอทีเอ็ม เน็ทเวิร์ค โดยมียอดรายได้คิดเป็นมูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปี วีซ่ามีข้อมูลโฮมเพจในเครือข่ายอินเตอร์เน็ต คือ http://www.visa.com
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ โทร: 252-9871/7 อีเมลล์: P_Sukontip@bm.com-- จบ--