กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้จัดพิมพ์ หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ฉบับภาษาไทย 10,000 เล่ม ซึ่งมีเนื้อหาเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมของชนชาติไทยและประวัติศาสตร์ชาติไทย และกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการจัดทำเป็นฉบับภาษาอังกฤษ สำหรับเผยแพร่แก่ชาวต่างชาติให้รับรู้ถึงประวัติศาสตร์ชาติไทยที่สืบเนื่องมาอย่างยาวนาน และหนังสือพระบรมราชานุสรณ์ สัตตบูรพกษัตริยาธิราช อุทยานราชภักดิ์ 1,000เล่ม เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้คนรุ่นหลังรับรู้ความเป็นมาของชาติ ความเสียสละของบูรพมหากษัตริยาธิราชและบรรพบุรุษไทยที่ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เลือดเนื้อ และชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยจนสืบทอดมาถึงปัจจุบัน ตระหนักและมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่ เป็นพลเมืองที่ดี ช่วยกันดูแลรักษาชาติบ้านเมืองให้เกิดความสงบ เดินหน้าฝ่าวิกฤติการณ์ต่างๆ ไปได้
นายวีระ กล่าวต่อว่า วธ.กำลังเร่งเผยแพร่หนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยขณะนี้ทยอยส่งมอบให้กับห้องสมุดโรงเรียนต่างๆ เบื้องต้นส่งมอบหนังสือดังกล่าวให้กับโรงเรียนไทยรัฐวิทยา จำนวน 101 แห่ง เพื่อนำไปมอบให้กับโรงเรียนต่างๆ ส่วนโรงเรียนอื่นๆ วธ.จะทยอยส่งมอบให้กับห้องสมุดในโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้นักเรียนและเยาวชนได้เรียนรู้และเข้าใจเรื่องราวของประวัติศาสตร์ชาติไทยอย่างถูกต้อง
รมว.วธ. กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม วธ. กำลังเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี กรณีให้รวมรวมเนื้อหาประวัติศาสตร์ชาติไทย และจัดทำเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทยฉบับพกพาเพิ่มเติม ทั้งในรูปแบบภาษาไทยสำหรับเยาวชนไทยและผู้สนใจทั่วไป และฉบับภาษาอังกฤษ เพื่อเผยแพร่ให้ชาวต่างชาติได้รับทราบถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ชาติไทยอันดีงามด้วย นอกจากนี้ วธ.จะเปิดตัวหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 20 วันที่ 21 ตุลาคม –1 พฤศจิกายน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีการเสวนาแนะนำหนังสือ ซึ่งนอกจากได้รับความรู้ สาระ และเกร็ดประวัติศาสตร์ รวมถึงผู้ร่วมงานที่ตอบคำถามเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ได้ถูกต้องมีสิทธิได้รับหนังสือ ซึ่งมีลายมือชื่อของนายกรัฐมนตรีด้วย ที่สำคัญ วธ.จะดำเนินการจัดสัมมนาประวัติศาสตร์ชาติไทยในเดือนพฤศจิกายน ที่โรงละครแห่งชาติ โดยเชิญนักวิชาการ ผู้ทรงวุฒิและผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์มาร่วมถ่ายทอดความรู้