กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--ไอแอมพีอาร์
มิวเซียมสยาม ชวนน้องๆ หนูๆ มาร่วมสนุกสนานและผจญภัยไปกับการต่อสู้กับเหล่าปีศาจร้าย ที่ข้ามเวลามาทำให้มิติเวลาพิศวงของมิวเซียมสยามบิดเบี้ยว ทางเดียวที่จะจัดการกับบรรดาปีศาจร้ายที่กระจายไปซ่อนตัวอยู่ยังสถานที่ต่างๆ ก็คือ การดาวน์โหลด Mobile Application "MuseMon" แล้วช่วยกันออกค้นหา ต่อสู้ และจัดการกับเหล่าปีศาจร้ายที่แฝงกายอยู่ในวัตถุจัดแสดงต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ให้กลับมาอยู่ในสมาร์ทโฟน ไอเดียเด็ดสุดเจ๋งจากเยาวชนทีม "เด็กพี่เทพเมพขิงๆ" หนึ่งในทีมที่ผ่านการคัดเลือกจากโครงการ Young Muse Project 5 ที่ผสมผสานเทคโนโลยี AR อันทันสมัยมาสร้างสรรค์ให้เกิดการเรียนรู้อย่างสนุกสนานและเพลิดเพลินในพิพิธภัณฑ์ได้อย่างลงตัว
"MuseMon" เป็นแอพพลิเคชันสำหรับสมาร์ทโฟน ระบบปฏิบัติการแอนดรอย (Android) และไอโอเอส (iOS) เกิดขึ้นมาภายใต้ไอเดีย ให้คนที่เข้ามาชมพิพิธภัณฑ์ มีกิจกรรมโต้ตอบกับสิ่งที่มีอยู่ในพิพิธภัณฑ์ผ่านตัวเกมแอพพลิเคชั่น ทำให้เกิดความสนุกสนาน และจดจำสิ่งต่างๆ รวมถึงเข้าใจในสิ่งที่นิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์ต้องการสื่อสารไปถึงผู้ชมมากยิ่งขึ้น โดยผู้เล่นจะต้องเดินไปในห้องต่างๆ ของนิทรรศการ "เรียงความประเทศไทย" ของมิวเซียมสยาม จนครบทั้งหมด 16 ห้องนิทรรศการ และใช้แอพพลิเคชั่น ออกค้นหา "MuseMon" และ "ไอเทม (Item)" ที่ถูกซ่อนอยู่ในแต่ละห้องนิทรรศการ จากคำใบ้ที่ให้ไว้ สะสมจนครบตามเงื่อนไข เพื่อแลกรับของรางวัลเป็นที่ระลึก ซึ่ง "MuseMon" เกิดจากไอเดียของ "ทีมเด็กพี่เทพเมพขิงๆ" ที่ประกอบไปด้วย นางสาวธันยพร สำราญเกษ และ นายชาญณรงค์ คำภูษา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี หนึ่งใน 3 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกจาก "โครงการปั้นนักพิพิธภัณฑ์สายพันธุ์สยาม ครั้งที่ 5" หรือ Young Muse Project ภายใต้หัวข้อการประกวดคือ Wow!! Project "เด็กกล้าท้าเปลี่ยน : ปรับ ปั้น ปลุก พิพิธภัณฑ์ไทย ไฉไลกว่าเดิม" ที่ดำเนินงานโดยมิวเซียมสยาม เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ เห็นความสำคัญของการสร้างกระบวนการคิดและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสื่อความคิดหรือความรู้ในมุมมองใหม่สู่สาธารณะผ่านพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ ภายใต้แนวคิด Discovery Museum
นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ เปิดเผยว่า โครงการ Young Muse Project เป็นการเปิดพื้นที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ และมิวเซียมสยามได้ทำงานและก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน บนโจทย์หรือเป้าหมายที่สำคัญคือ ทำอย่างไรจึงจะสามารถพัฒนาตัวของพิพิธภัณฑ์ไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนทัศนคติของคนไทยใหม่ว่า พิพิธภัณฑ์ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป แต่เป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ได้ พร้อมทั้งหาความรู้และสร้างแรงบันดาลใจไปพร้อมๆ กัน
ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ไทยกำลังมีคู่แข่งสำคัญอย่างศูนย์การค้าที่ต่างกันแย่งชิงพื้นที่ให้เป็นจุดสนใจ ยิ่งเป็นวัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่ นิยมเข้าไปใช้พื้นที่เพื่อพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์หรือทำกิจกรรมร่วมกัน ดังนั้นพิพิธภัณฑ์หรือแหล่งเรียนรู้จึงต้องเปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้กลายเป็นพื้นที่ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ตามไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เปลี่ยนไปได้ สำหรับแนวคิดการพัฒนา Mobile Application MuseMon นั้นเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เรียกว่า AR หนือ Augmented Reality เข้ามาประยุกต์กับเนื้อหาในชุดเรียงความประเทศไทยที่จัดแสดงในมิวเซียมสยาม ซึ่งจะช่วยให้เกิดการชมนิทรรศการในรูปแบบใหม่ ที่มีความสนุกสนาน ตื่นเต้น และสามารถสร้างความจดจำองค์ความรู้ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในพิพิธภัณฑ์มากยิ่งขึ้น และอาจจะเรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการนำเกมส์ออนไลน์มาช่วยส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ขึ้นในพิพิธภัณฑ์ ที่คนทุกเพศวัยสามารถเข้าถึงได้ เพราะปัจจุบันนี้มือถือหรือสมาร์ทโฟนนั้น ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้สูงอายุก็สามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ของพิพิธภัณฑ์มากยิ่งขึ้น" ผอ.ราเมศกล่าว
นางสาวธันยพร สำราญเกษ ตัวแทนจาก "ทีมเด็กพี่เทพเมพขิงๆ" เล่าถึงแรงบันดาลใจในการพัฒนา Mobile Application "MuseMon" ว่าเกิดจากการที่ได้เห็นสิ่งของหรือวัตถุที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ว่าแต่ละชิ้นล้วนมีประวัติความเป็นมา มีเรื่องราวที่น่าสนใจ และมีความสำคัญไม่แพ้กัน และสังเกตุว่าผู้ที่เข้ามาชมพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่มักจะเดินชมแบบผ่านๆ ไม่ได้ลงลึงไปถึงเนื้อหาและเรื่องราวที่พิพิธภัณฑ์ต้องการจะสื่อสาร รวมไปถึงอาจจะมองข้ามจุดจัเดแสดงหลายๆ จุดที่มีความสำคัญไป
"ตรงนี้เองที่ทำให้เกิดความคิดว่า หากมีอะไรที่สามารถช่วยดึงสิ่งต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์นั้นให้โดดเด่นขึ้นมา และเป็นที่น่าจดจำสำหรับผู้ที่เข้ามาชม พร้อมทำให้เกิดความสนุกสนานและสอดแทรกข้อมูลความรู้ของสิ่งต่างๆเหล่านั้นอย่างสั้นๆ ให้ผู้เข้าชมได้รับรู้ ได้คงดีไม่น้อย แม้จะเป็นเพียงการสอดแทรกข้อมูลเพียงสั้นๆ และไม่ได้มีใจความเท่าใดนัก แต่หากมันสามารถเป็นจุดหนึ่ง ซึ่งจุดประกายให้ผู้เข้าชมเกิดความสนใจ ก็อาจจะมีการตามไปอ่านข้อมูลที่ถูกจัดแสดงภายในนิทรรศการต่อก็เป็นได้ ทำให้ผู้ชมเข้าถึงข้อมูลที่แท้จริงที่นิทรรศการต้องการสื่อโดยอัตโนมัติ จึงเป็นที่มาของแอพพลิเคชั่น MuseMon ที่จะชวนให้ทุกคนมาร่วมสนุกไปกับเกมส์การค้นหาและต่อสู้กับเหล่าปีศาจร้ายที่ข้ามเวลามาแฝงตัวอยู่ในวัตถุจัดแสดงต่างๆ ในมิวเซียมสยาม ที่นอกจากจะได้ความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ยังได้รับความรู้และเรื่องราวเกี่ยวกับ MuseMon แต่ละตัว รวมไปถึง Item ต่างๆ ซึ่งก็คือวัตถุที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์ในนั่นเอง ซึ่งจะทำให้การเรียนรู้เรื่องราวในด้านต่างๆ ทั้งประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรมในพิพิธภัณฑ์ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไป และยังสามารถเป็นต้นแบบในการต่อยอดหรือนำเทคโนโลยี AR ไปใช้กับแหล่งเรียนรู้อื่นๆ เพื่อสร้างการเรียนรู้ที่สนุกสนานได้อีกด้วย"