กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--ประชาสัมพันธ์ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล
ในที่สุด มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวทีการประกวดนางงามที่ยิ่งใหญ่ ระดับแกรนด์ สแลม ของโลก ได้โอกาสต้อนรับ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล "คนที่3" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายหลังจาก บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โดย นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานและผู้ก่อตั้ง มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้จัดการประกวดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยสาวงามเต็งหนึ่ง เอเนีย การ์เซีย จากประเทศ โดมินิกัน รีพับบลิค คว้ามงกุฎ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2015 เฉือนชนะ แคลร์ อลิซาเบธ พาร์กเกอร์ สาวสวยจาก ออสเตรเลีย ส่วน ปอไหม-รัตติกร ขุนโสม ตัวแทนประเทศไทย ซิวตำแหน่ง รองอันดับที่4 ท่ามกลางกองเชียร์แน่น อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก ถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 และ ไลฟ์ สตรีม ทั่วโลก ทางwww.missgrandinternational.com
การประกวดเริ่มต้นขึ้นในเวลา 20.00 น. เปิดเวทีอลังการด้วย Openning Show (โอเพนนิ่ง โชว์) เปิดตัวผู้เข้าประกวด 78 ประเทศในชุดราตรีสั้นสีแดงโชว์สเต็ปแดนซ์ร่วมกับ ลีส์ กราเซีย มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2014 ก่อนที่ ลีส์ จะมารับหน้าที่พิธีกร ร่วมกับ แมทธิว ดีน กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ คณะกรรมการ สื่อมวลชน และแฟนคลับนางงาม
เริ่มการประกาศผู้ได้รับรางวัล Best National Costume หรือ ชุดประจำชาติยอดเยี่ยม ได้แก่ น.ส พารูล ควิทโมลา ซาห์จาก ประเทศ ฟิลิปปินส์ พิธีกรประกาศผลผู้เข้ารอบ 20 คนสุดท้าย และทั้งหมดกลับออกมาอีกครั้งในชุดว่ายน้ำทูพีซ สีสันสดใส แบรนด์ MGI (เอ็ม จี ไอ) ซึ่งเป็นแบรนด์ชุดว่ายน้ำลิขสิทธิ์เฉพาะของเวทีมิสแกรนด์ สั่งตัดพิเศษ เพื่อให้นางงามทุกคนสวมใส่โชว์สัดส่วนบนเวทีเป็นครั้งแรก จากนั้นพิธีกรประกาศผลรางวัล Best In Swimsuit หรือ ชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม ได้แก่ น.ส. มาเรียลา อาปาร์ซีโอ อัลฟาโร ประเทศ คอสตา ริกา ตามมาด้วยรางวัล Miss Popular Vote (มิส ป๊อบปูล่าโหวต) ได้แก่ น.ส. ออร์เนลล่า มาเรียม กันเนสอิเกเร่ ประเทศ ศรีลังกา
พิธีกรประกาศผลผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนคลับ ได้แก่ประเทศ ฟิลิปปินส์ บราซิล สเปน ไทยแลนด์ ญี่ปุ่น คอสตาริกา อินเดีย โดมินิกัน รีพับบลิค ออสเตรเลีย ศรีลังกา เดินโชว์โฉมในชุดราตรียาว ก่อนจะยกเวทีให้กับโชว์สุดพิเศษจาก เจนนาลี มาร์คัส ชาร์ปาโร เจ้าของตำแหน่ง มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2013 "คนแรกของโลก" เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับได้สนั่นอินดอร์ฯ จากนั้นนางงามผู้เข้ารอบ ทั้ง 10 คนสุดท้าย กลับออกมาอีกครั้งในชุด Business look (บิสิเนส ลุค) เพื่อแสดงทัศนคติ STOP THE WAR (สต๊อป เดอะ วอร์) ซึ่งคำตอบของแต่ละสาวงามนั้น สร้างความประทับใจต่อคณะกรรมการ และกองเชียร์เป็นอย่างมาก
เสียงปรบมือดังกึกก้องขึ้นอีกครั้งเมื่อ ลีส์ กราเซีย มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2014 ขึ้นกล่าวอำลาตำแหน่งอันทรงเกียรติ ไปพร้อมภาพการปฏับัติภารกิจ แคมเปญ STOP THE WAR ทั่วโลก ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานและผู้ก่อตั้ง มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ขึ้นถอดมงกุฎจาก ลีส์ เพื่อนำไปมอบให้กับ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล คนใหม่ โดยสวมมงกุฏเทียร่าให้กับ ลีส์ เป็นที่ระลึก นางงาม 78 ประเทศ กลับออกมาเฉิดฉายในชุดราตรียาวอีกครั้ง ปิดท้ายด้วยการประกาศรางวัล Best In Evening Gown หรือ ชุดราตรียอดเยี่ยม ได้แก่ น.ส อายากะ ทานากะ ประเทศ ญี่ปุ่น ส่วนผู้ได้รับตำแหน่ง Best Social Media หรือ โซเชียล มีเดีย ยอดเยี่ยม ตกเป็นของ น.ส วาทิกา บริจ นาร์ท ซิงห์ ประเทศ อินเดีย
แล้วนาทีระทึกใจก็มาถึง เมื่อพิธีกรประกาศผู้เข้ารอบ 5 คน สุดท้ายได้แก่ ประเทศ อินเดีย โดมินิกัน รีพับบลิค ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และ ไทย เพื่อตอบคำถามที่ว่า ใครคือผู้มีอิทธิพลต่อชีวิตคุณมากที่สุด? เพราะอะไร?
เริ่มจากสาวงามจาก อินเดีย ตอบว่า " มหาตมะ คานธี เพราะท่านเป็นผู้นำอิสรภาพมาสู่ประเทศอินเดีย หากฉันได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้จะทำตามเจตนารมณ์ และเชื่อมั่นว่า จะนำสันติภาพมาสู่โลกใบนี้ได้เช่นกัน" ฟิลิปปินส์ ตอบว่า "ในชีวิตของฉัน ผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือคุณพ่อ เพราะฉันเชื่อเสมอมาว่าสันติภาพ เริ่มต้นจากจุดเล็กๆคือบ้านของเราเอง เราต้องอยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจและเห็นใจซึ่งกันและกัน และคุณพ่อก็เป็นบุคคลตัวอย่างในการดำรงชีวิตของฉันค่ะ" โดมินิกัน รีพับบลิค ตอบว่า " ฉันมีคุณพ่อเป็นผู้มีอิทธิพลในชีวิต (ร้องไห้) แต่ตอนนี้คุณพ่อไม่อยู่แล้ว ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็จะให้อภัยคุณพ่อกับสิ่งที่คุณพ่อทำผิดพลาดไป เพราะฉันรักและมีความเคารพคุณพ่อเสมอมา และนึกถึงบุญคุณของท่านตลอด ถ้าไม่มีพ่อ ก็คงไม่มีฉันในวันนี้" ออสเตรเลีย ตอบว่า "คนที่มีอิทธิพลสำหรับฉันมากที่สุด นับตั้งแต่ฉันเดินทางมาถึงเมืองไทย และใช้ชีวิตอยู่ในกองประกวด นั่นคือ ลีส์ กราเซีย มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2014 ซึ่งเธอได้ปฎิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนของ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าวันนี้ฉันได้รับตำแหน่งฉันก็จะสานต่อการปฎิบัติหน้าที่นี้ให้ดี และสมกับที่ได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรติ ปิดท้ายที่ ปอไหม ตัวแทนประเทศไทย และเป็นคนไทยคนแรกที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย นับตั้งแต่จัดการประกวดมา ตอบว่า "อองซานซูจี คือบุคคลที่มีอิทธิพลต่อชีวิตฉัน เพราะเป็นผู้หญิงที่มีความกล้าหาญ และเข้มแข็ง มุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อเอาชนะ และต้องการสันติภาพกลับมาให้ประเทศของตนเองอีกครั้ง" ซึ่งรอบการตอบคำถาม สร้างความหนักใจให้กับคณะกรรมการไม่น้อยทีเดียว แต่ผู้ชนะมีเพียง "หนึ่งเดียวเท่านั้น" ท่ามกลางการลุ้นระลึก พิธีกรประกาศตำแหน่ง รองอันดับ4 ได้แก่ น.ส รัตติกร ขุนโสม ประเทศไทย ตำแหน่งรองอันดับ 3 ได้แก่ น.ส พารูล ควิทโมลา ซาห์ ประเทศ ฟิลิปปินส์ ตำแหน่งรองอันดับ 2 ได้แก่ น.ส วาทิกา บริจ นาร์ท ซิงห์ ประเทศ อินเดีย เหลือสาวงามตัวเต็ง ออสเตรเลีย และ โดมินิกัน รีพับบลิค เพียงสองคนเท่านั้น พิธีกรประกาศตำแหน่ง รองอันดับ 1 ได้แก่น.ส.แคลร์ อลิซาเบธ พาร์กเกอร์ ประเทศออสเตรเลีย และแสดงความยินดีกับ ผู้คว้ามงกุฎ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2015 ได้แก่ น.ส. เอเนีย การ์เซีย จาก โดมินิกัน รีพับบลิก รับมงกุฎเพชร สายสะพาย พร้อมเงินรางวัลมูลค่า 40,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 1,200,000 บาท สิทธิ์ในการครอบครอบ คอนโดมีเนียมหรู เพื่อพำนักระหว่างปฏับัติภารกิจในประเทศไทย ตลอดระยะเวลา 1 ปี รวมถึงการเดินทางไปทั่วโลก เพื่อปฏิบัติภารกิจ Stop The War ร่วมกับองค์กร มิสแกรนด์
โดย เอเนีย การ์เซีย เผยว่า "รู้สึกช็อคมาก ไม่คิดว่าจะได้รับตำแหน่ง มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เพราะทุกคนมาเวทีนี้ก็เพื่อจุดประสงค์เดียวกัน คืออยากจะเป็นมิสแกรนด์ฯ ตอนที่รู้ว่าเป็นตัวเอง ก็ดีใจมากๆ ไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ฉันคิดแค่ว่ามาสู่ฝันและทำให้ดีที่สุดเท่านั้นก็พอ ตอนนี้สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราทุกคนบนเวที มิสแกรนด์ฯเป็นเหมือนพี่น้องกันแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนกับประสบการณ์ดีๆ และต่อจากนี้ฉันจะทำหน้าที่และปฏับัติภารกิจร่วมกับองค์กรมิสแกรนด์ฯอย่างเต็มกำลังและดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ"
ติดตามความเคลื่อนไหวและภารกิจต่างๆของ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2015 ได้ทาง www.missgrandinternational.com หรือfacebook.com/missgrandinternational และ
Application : missgraninternational