กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
วานนี้ ( 26 ตุลาคม 2558), มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้เข้าพบพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ณ ทำเนียบรัฐบาล ตามคำเชิญอย่างเป็นทางการของรัฐบาลไทยเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศ
มร.โมะริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงประเด็นหลักภายหลังจากการเข้าพบรัฐบาลไทยเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการลงทุนว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จะยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเนื่องจากการสนับสนุนของภาครัฐที่มีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง
"มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 50 ปี โดยตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทฯ ได้ลงทุนสร้างโรงงานใหม่แห่งที่ 3 ณ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จนถึงปัจจุบันมียอดเม็ดเงินการลงทุนรวมกว่า 35,000 ล้านบาท ส่งผลให้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กลายเป็นหนึ่งในฐานการผลิตที่สำคัญนอกประเทศญี่ปุ่น ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเราต้องขอขอบคุณภาครัฐที่ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างต่อเนื่องมา ณ โอกาสนี้ " มร.ชกคิ กล่าว
ในประเด็นด้านเศรษฐกิจนั้น มร. ชกคิ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเพื่อกระตุ้นความต้องการในประเทศ รวมทั้งให้ภาครัฐพิจารณาการขยายโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี (SME) เพื่อเพิ่มกำลังซื้อรถกระบะสำหรับนำมาใช้ในธุรกิจของภาคการเกษตรรวมทั้งกลุ่มเอสเอ็มอี ในส่วนของธุรกิจการส่งออกนั้น บริษัทฯ มองว่า มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษีในปัจจุบันของบางประเทศในกลุ่มอาเซียนยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการส่งออกรถยนต์ภายหลังจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในปี 2559
"อย่างไรก็ตาม รถกระบะยังคงมีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากมีความต้องการอย่างสูงในตลาดเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งทิศทางนโนบายของภาครัฐในการส่งเสริมรถกระบะรวมทั้งรถกระบะอเนกประสงค์ให้เป็นผลิตภัณฑ์หลักของประเทศถือเป็นนโยบายที่มีวิสัยทัศน์ที่ถูกต้อง ดังนั้นรัฐบาลควรจะสนับสนุนตลาดรถกระบะต่อไปควบคู่ไปกับการส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง" มร.ชกคิ กล่าวในตอนท้าย